4 ธ.ค.2563 รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ออกคำชี้แจง กรณีเผยแพร่ข่าว การปรับขึ้นราคาโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีเนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากการที่สำนักข่าวออนไลน์บางแห่งได้มีการนำเสนอข้อมูลข่าวว่า “บีทีเอส เตรียมขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดเส้นทาง เป็นจำนวน 158 บาท” บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ขอชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวคลาดเคลื่อนและผิดพลาดจากข้อเท็จจริง ดังนี้
ปัจจุบันบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารและรับรายได้ค่าโดยสารจากระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส ในส่วนเส้นทางเดิมของสัมปทานจากกรุงเทพมหานคร ตามอายุสัญญา 30 ปี หรือ ตั้งแต่ ปี 2542 –2572 ภายใต้วัตถุประสงค์ เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจร และลดมลภาวะในเมืองใหญ่ อย่าง กรุงเทพมหานคร ประการสำคัญยังเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางในแต่ละพื้นที่ให้กับพี่น้องประชาชน กระทั่งนำมาสู่ความร่วมมือกับ บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ของกรุงเทพมหานคร สำหรับการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายจากเส้นทางเดิมของสัมปทาน คือ ส่วนต่อขยายสายสีลม (สะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่) และส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง) รวมถึงส่วนต่อขยายเพิ่มเติมของสายสุขุมวิทจากแบริ่ง ไปเคหะ และจากหมอชิต ไปคูคต
ขณะที่การกำหนดราคาค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทานเดิม รถไฟฟ้าบีทีเอส ในฐานะผู้รับผิดชอบการบริหารรถไฟฟ้า ระยะทาง 23.5 กม. เส้นทางหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารปัจจุบันในอัตรา 16 ถึง 44 บาท (ตามระยะทาง) ขณะที่ช่วงส่วนต่อขยายทั้งหมด (อ่อนนุช-สำโรง-เคหะฯ วงเวียนใหญ่-บางหว้า หมอชิต-วัดพระศรีฯ) กรุงเทพมหานครเป็นผู้กำหนดค่าโดยสาร
ข้อเท็จจริงสำคัญที่ผ่านมา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในฐานะผู้ลงทุนขบวนรถ ส่วน กทม. ในฐานะผู้ลงทุนงานโยธาและระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ได้ร่วมรับผิดชอบดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ส่วนต่อขยายประกอบด้วยช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-เคหะ และ ช่วงหมอชิต-คูคต จำนวน 59 สถานี รวมระยะทางถึง 68.25 กม. สามารถเชื่อมโยงการเดินทางครอบคลุมถึง 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี, กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ โดยมีความคืบหน้าพร้อมเปิดเป็นทางการครบทั้ง 59 สถานี ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 นี้
สำหรับประเด็นค่าโดยสารที่จะเพิ่มขึ้นจากเส้นทางเดินรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยาย ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า, ช่วงอ่อนนุช-เคหะ และ ช่วงหมอชิต-คูคต ยังคงเป็นการกำหนดโดยกรุงเทพมหานคร BTSC อยู่ในฐานะผู้รับจ้างการเดินรถในส่วนต่อขยายนี้เท่านั้น และที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครมีเป้าหมายในการทำให้ค่าโดยสารมีอัตราที่เหมาะสม โดยจะมีการเก็บค่าโดยสารตามระยะทางเริ่มต้นจาก 15 บาท และรวมตลอดเส้นทางอยู่ในระดับไม่เกิน 65 บาท เพื่อไม่ให้เป็นภาระกระทบต่อคุณภาพชีวิตชาวกรุงเทพมหานคร จากค่าโดยสารตลอดเส้นทางที่ศึกษาไว้เดิมสูงสุดถึง 158 บาท จนนำมาสู่ การเจรจาเพื่อแก้ไขสัญญาสัมปทาน เพื่อให้สามารถจัดเก็บค่าโดยสารตามเป้าหมายและแก้ไขปัญหาเรื่องภาระหนี้สินของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทยและอยู่ระหว่างการเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ทั้งนี้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ขอยืนยันในข้อเท็จจริงข้างต้น พร้อมย้ำอีกครั้งว่า ถึงแม้จะต้องเป็นผู้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินรถส่วนต่อขยาย จากหนี้คงค้างของกรุงเทพมหานครกว่า 8,000 ล้านบาท ทางบริษัทฯ ให้คำมั่นสัญญาจะรับผิดชอบให้บริการ การเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส แก่ชาวกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล เป็นปกติเช่นเดิมจนถึงที่สุด รวมถึงยืนยันหลักการในความร่วมมือกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เพื่อทำให้แผนการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมระยะทาง 68.25 กม. มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด จนกว่าจะมีความชัดเจนอย่างใดอย่างหนึ่งจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)