นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘PRIME’ บริษัทพลังงานสะอาดชั้นนำ เปิดเผยว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ เราจะเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน"เราจึงร่วมมือกับคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับในด้านเทคนิคและหลักการถ่ายทอดความรู้ด้านวิศวกรรมให้แก่ผู้เรียน เพื่อทำการศึกษาทดลอง วิจัยพัฒนา และทดสอบทางวิศวกรรมของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Photovoltaic Solar Power System)"นายสมประสงค์ กล่าว
นายสมประสงค์ กล่าวอีกว่าโดยระบบพลังงานแสงอาทิตย์นี้ จะช่วยประหยัดเงินค่าไฟกับผู้ใช้ทั้งภาครัฐและเอกชน ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และสร้างความมั่นคงพลังงานให้ประเทศชาติอย่างยั่งยืนบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือที่สำคัญของทั้งสององค์กร เพื่อผลักดันการต่อยอดนวัตกรรมระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้สามารถทดแทนการใช้เชื้อเพลิงแล้วหมดไปอย่างน้ำมันหรือถ่านหิน (Fossil Fuel) ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดภาวะโลกร้อน
สอดคล้องกับนโยบายการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ของประเทศภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDG) ที่ว่าด้วยการเร่งต่อสู่กับสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อไป
รศ.ดร. ไพโรจน์ สถิรยากร คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า ถึงความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ว่า จะเป็นผลดีต่อนักศึกษาของคณะฯ ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก เนื่องจากจะได้ข้อมูลที่หลากหลายจากทาง บริษัทไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะส่งผลให้งานวิจัยของนักศึกษาและบุคลากรของคณะฯ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จะมีการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการในด้านบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) อาคารอัจฉริยะ (Smart Building) ระบบการจัดการพลังงาน (Energy Management System) และการเชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นต้นแบบแห่งการผลิตครูช่างและสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับมากว่า 50 ปี ในด้านการจัดการศึกษา โดยยึดมั่นการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
ซึ่งการผลิตครูช่างอุตสาหกรรมจะต้องมุ่งเน้นเนื้อหาทางด้านเทคนิคในแต่ละสาขาความรู้ ควบคู่กับหลักการหรือยุทธวิธีในการถ่ายทอดความรู้ทางวิศวกรรมให้กับผู้เรียน ตลอดจนการวิจัยพัฒนาทางด้านวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการบริการทางด้านวิชาการ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้
ทั้งนี้ในปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้ขยายโอกาสทางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่ภูมิภาคจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง มีหลักสูตรสำหรับนักศึกษามากกว่า 190 หลักสูตร เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0”