กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – ปัจจุบัน (10 ธันวาคม 2563 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 101 อำเภอ 584 ตำบล 4,216 หมู่บ้าน
ประชาชนได้รับผลกระทบ 684,124 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 29 ราย (สุราษฎร์ธานี 2 ราย นครศรีธรรมราช 21 ราย ตรัง 1 ราย สงขลา 2 ราย และพัทลุง 3 ราย) ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 5 จังหวัด 31 อำเภอ 136 ตำบล 880 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 253,753 ครัวเรือน ดังนี้
สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และอำเภอบ้านนาสาร รวม 45 ตำบล 343 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,802 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอถ้ำพรรณา รวม 50 ตำบล 366 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอวังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 16 ตำบล 73 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,423 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอ ปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว รวม 9 ตำบล 29 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,284 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 16 ตำบล 69 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,494 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง