สมาคมโรงสีข้าวไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี และได้มีการเลือกนายรังสรรค์ สบายเมือง เป็นนายกคนใหม่แทนนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งครบวาระที่ 2 ทั้งนี้ นายกสมาคมคนใหม่มีกำหนดดำรงตำแหน่งวาระ 2 ปี สามารถต่อ 2 ครั้ง รวม 4 ปี
สำหรับการแข่งขันรอบนี้ ปรากฎว่ามีผู้เสนอชื่อ แข่งขัน 2 คน คือ นายรังสรรค์ สบายเมือง หรือ เสี่ยหมี ประธานชมรมโรงสี จ.กำแพงเพชร เจ้าของโรงสีสนั่นเมือง และกรรมการผู้จัดการ บริษัทกำแพงเพชรเอ็กซ์ปอร์ต ชนะ นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ หรือ เสี่ยหน่อย ผู้ประกอบการโรงสีเอกวัฒนาพืชผล จ.นครราชสีมา และเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย ด้วยคะแนน 181 ต่อ 109
ทั้งนี้ นายรังสรรค์เป็นอุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยอยู่แล้ว และเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนายกสมาคม เมื่อ 4 ปีก่อน แข่งกับนายเกรียงศักดิ์ แต่ขณะนั้น ด้วยยังอ่อนอาวุโสกว่าและยังไม่มองเรื่องนี้จึงได้ “สละสิทธิ์” หลังจากที่แสดงวิสัยทัศน์
นายรังสรรค์ทำโรงสีมาตั้งแต่ปี 2530 หรือประมาณ 33 ปีมาแล้ว เป็นการทำด้วยตัวเองไม่ใช่มาจากพ่อแม่ ตอนนั้นเริ่มต้นธุรกิจด้วยพื้นที่โรงสีแค่ 8 ไร่ สีวันละ 6 ตัน กระทั่งมาตอนนี้มีพื้นที่ 300 ไร่ สีวันละ 900 ตัน แต่ก็เป็นเพียงโรงสีระดับกลางๆ เท่านั้น
นอกจากธุรกิจโรงสีแล้ว ผมก็ยังได้เริ่มจดทะเบียนตั้งบริษัทส่งออกข้าวเมื่อปี 2548 และเริ่มส่งออกจริงเมื่อปี 2550 ตอนนั้นส่งออกแค่หลัก 1-2 หมื่นตันเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมส่งออกปีละ 1 แสนตัน
ด้วยประสบการณ์ทั้งโรงสีและส่งออกทำให้เขารู้กระบวนการทำงานตั้งกลางน้ำ และปลายน้ำ เช่น ช่วงไหนโรงสีมีข้าว หรือช่วงไหนตลาดส่งออกเป็นอย่างไร ราคาส่งออกเป็นอย่างไร ควรขายล่วงหน้าหรือไม่ หรือควรผลิตข้าวแบบไหนจะตรงกับความต้องการของตลาดโลก ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นข้อมูลที่ดีที่จะให้กับสมาชิกโรงสีได้
สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการต่อเนื่องคือ เรื่องสภาพคล่องโรงสี และการสาต่อเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมโรงสี ในจังหวะที่ไทยกำลังพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ เช่น ข้าวขาวพื้นนุ่มมาแข่งขันในตลาดทั้งนี้ ภาพรวมสมาคมโรงสีข้าวไทย ปัจจุบันมีสมาชิกสามัญ 600 กว่าราย สมาคมสมทบอีก 200