เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสุพจน์ พุ่มพร้อมจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลทรัพย์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร กับพวก 2 ราย คือ นางสาวสุพรทิพย์ บำรุงชู และ นางอารีย์ พันธ์ธร เรียกรับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 และ พ.ศ.2557 จากพนักงานเทศบาลฯ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 , 157 ประกอบมาตรา 83, 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามมาตรา 149 ประกอบมาตรา 83
จำคุก จำเลยทั้งสามกระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุกจำเลยทั้งสาม คนละ 10 ปี
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต