นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สนช. กล่าวถึงเรื่องที่มีการยื่นร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิก สนช. และบุคคลระดับนายพลอีก 3 คน กรณีอำนวยความสะดวกให้นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ระหว่างการเดินทางเป็นประธานสร้างฝายชะลอน้ำที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ว่า สนช.จะยังไม่เรียกให้ พล.อ.ปรีชามาสอบเรื่องจริยธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคู่สมรส ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของสมาชิก สนช.โดยตรง เราคงไม่หยิบมาพิจารณาเองหากไม่มีผู้ร้องเข้ามา แต่หากมีผู้ร้องต้องมาหารืออีกครั้งว่าเข้าข่ายที่ สนช.จะนำมาพิจารณาได้หรือไม่
นายพีระศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. ท้วงติงเจตนารมณ์ของมาตรา 107 เรื่องที่มา ส.ว.ในร่างรัฐธรรมนูญว่าสับสน ลักลั่น เกิดการบล็อกโหวตว่า งานหลักของ สปท.คือการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จทั้ง 11 ด้าน การร่างกฎหมายลูกเรื่องที่มา ส.ว.เกี่ยวข้องกับด้านการเมืองโดยตรง สปท.การเมืองจึงเสนอไป เป็นเรื่องธรรมดา สนช.เองยังไม่ถึงเวลาหารือเรื่องนี้ แต่เคยเสนอไปที่ กรธ.ให้สรรหา ส.ว.ทั้งหมด แต่ กรธ.ก็เขียนอีกแบบ ข้อท้วงติงขณะนี้ สนช.ไม่ขอก้าวล่วงให้เป็นสิทธิแต่ละคน แต่ต้องแยกแยะ รัฐธรรมนูญผ่านประชามติไปแล้วต้องตรากฎหมายให้ตรงกับเจตนารมณ์ที่ประชาชนให้มา ไม่ใช่เวลาย้อนกลับไปเถียงถึงข้อเสนอก่อนร่างรัฐธรรมนูญแล้ว