นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อมสมาชิกกลุ่ม เข้ายื่นหนังสือต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เพื่อขอให้กระทรวงฯออกมาตรการป้องกัน การใช้ครูและนักเรียนเป็นเครื่องมือการเมืองเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงการเคลื่อนไหวทางการเมือง ไทยภักดีเห็นว่ามีการใช้นักเรียนและครูเป็นเครื่องมือในการก้าวล่วงสถาบัน ตนจึงอาศัยสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ในการทำหน้าที่ปกป้องสถาบันหลัก โดยมาเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เพื่อให้มีนโยบายที่ชัดเจนแก่ผู้บริหารทุกระดับในการพิทักษ์ รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขอให้ปรับปรุงหลักสูตร จัดกิจกรรมรณรงค์บุคลากรทางการศึกษา ให้สำนึกของความภูมิใจความเป็นไทย ซึ่งทางกลุ่มขอเสนอมาตรการดังต่อไปนี้
1.กระทรวงศึกษาธิการ ต้องมีนโยบายที่ชัดแจนแก่ผู้บริหารทุกระดับ ของโรงเรียนและสถานศึกษา ในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มการเมือง และเครือข่ายใช้โรงเรียนและสถานศึกษาในครปลุกระดม จาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ
2.กระทรวงศึกษาธิการต้องมีนโยบาย ที่ชัดเจนต่อครูและบุคคลากรทางการศึกษา ในการพิทักษ์สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะครูหรือบุคคลากรทางการศึกษา ที่มีจิตใจเอนเองสนับสนุนผู้ที่ไม่หวังดี เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ จะเป็นอันตรายต่อความคิดของนักเรียนได้
3.กระทรวงศึกษาธิการควรมีการปรับปรุงหลักสูตร เพื่อสร้างสำนึกของความภูมิใจในความเป็นชนชาติไทย
4.กระทรวงศึกษาธิการควรมีกิจกรรมรณรงค์ สร้างจิตสำนึกต่อนักเรียน ครู ตลอดจนบุคคลากรทางการศึกษา ให้เห็นถึงความสำคัญ และความเข้าใจที่ถูกต้อง ของสถาบันหลักของชาติ
5.ถ้าหากเกิดกิจกรรมทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในโรงเรียนหรือสถานศึกษาใด ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษานั้น ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้นายแพทย์วรงค์ ยังมั่นใจว่า การออกมาดำเนินการดังกล่าวของทางกลุ่มตนในวันนี้ จะไม่ได้ทำให้นักเรียน ,นักศึกษา เกิดความไม่พอใจเพิ่ม // รวมถึงตนยังเชื่อว่า การออกมาเรียกร้องของกลุ่มนักเรียน ,นักศึกษา มีผู้อยู่เบื้องหลัง
ด้านนาย ณัฏฐพล กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ขอบคุณกลุ่มไทยภักดีที่มีความมุ่งมั่น เช่นเดียวกับคนไทยส่วนใหญ่ ช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงสิทธิเสรีภาพในหลายประเด็น ทางกระทรวงศึกษาธิการเองก็พยายามแก้ไขปัญหาในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สำหรับข้อเสนอไทยภักดีจะนำไปสู่การพิจารณาเพื่อดูความเหมาะสมในหลายๆเรื่อง
ทั้งนี้ยืนยันว่าตนมีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักสูตรให้เกิดความรักชาติให้สอดคล้องกับสังคมปัจจุบัน เพราะเป็นห่วงว่าหากเกิดแนวคิดเดินไปข้างหน้าโดยไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ถือว่ามีอันตราย ตนเข้าใจเรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตยดี ทว่าประเทศไทยเราก็มีบริบทที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง
"ตราบใดที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีทางทำให้เอกลักษณ์ของประเทศไทยหายไปแน่นอน"
นอกจากนี้สำหรับสถานการณ์โควิด-19 เราจะเห็นถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงมีความห่วงใยประชาชน นี่คือข้อเท็จจริงซึ่งต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย