โฆษกกทม. แถลงมติที่ประชุม เฝ้าระวังสถานที่เสี่ยง ปิดโรงเรียนจนถึงหลังปีใหม่ และขอความร่วมมือให้ทำงานจากที่บ้าน
ร.ต.อ. พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวเพื่อแจ้งมติจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในจังหวัดสมุทรสาครเพิ่มเป็น 20 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 รายที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
โฆษก กทม. เผยว่า 3 สถานที่หลัก ได้แก่ สถานบริการ ตลาด และสนามมวย เป็นสถานที่ที่เสี่ยงจะเป็น Super Spreader จึงต้องมีการควบคุม โดยสถานบริการจะไม่สามารถให้บริการในลักษณะผับหรือบาร์ที่มีคนเข้าไปหนาแน่นได้ แต่ยังสามารถเปิดให้บริการในฐานะร้านอาหารได้ต่อไป ส่วนตลาดจะมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น เช่น จำกัดทางเข้าออก ตรวจอุณหภูมิผู้ใช้บริการ และให้สวมหน้ากากอนามัย ทางด้านสนามมวยก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนมากประกาศว่าจะไม่มีการชกจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ส่วนอีก 3 สถานที่ที่ต้องเฝ้าระมัดระวัง จากพฤติกรรมของแรงงานต่างชาติ มี 3 สถานที่หลัก ได้แก่ สวนสาธารณะ ตลาด และศาสนสถาน จะต้องมีการควบคุมไม่ให้มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก
ร.ต.อ. พงศกร ยังได้ขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชนให้งดจัดกิจกรรมปีใหม่ หากจะจัดงานที่มีคนมากกว่า 300 คน จะต้องขออนุญาตกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ส่วนงานที่มีคนร่วมงานต่ำกว่า 300 คน ยังสามารถจัดได้โดยต้องดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งให้ 437 โรงเรียน และศูนย์เด็กเล็ก 292 แห่ง ในสังกัด กทม. หยุดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 11 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 24 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 2564
ทางด้านหน่วยงานของ กทม.ทุกหน่วยงาน ยกเว้นหน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชน มีการประกาศให้ทำงานที่บ้าน (Work From Home) รวมถึงขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่ ที่สามารถให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ให้ปฏิบัติตามแบบเดียวกัน