พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธอส. ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาทางการเงินแก่ข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำ โดยปัจจุบันตำรวจไทยมีหนี้สินรวม 2.7 แสนล้านบาท เป็นลูกหนี้ 2.09 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นของธนาคารออมสิน และธอส. รวมกันกว่า 7 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นหนี้สหกรณ์ 1.8 แสนล้านบาท และอีก 2 หมื่นล้านบาทเป็นหนี้ธนาคารกรุงไทย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำ โดย ข้อมูลล่าสุด ธอส. มีลูกค้าของธนาคารที่ใช้สิทธิสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 39,493 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 30,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นลูกหนี้ที่มีปัญหาในการผ่อนชำระ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธอส.พร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับ สตช. พิจารณาแนวทางการช่วยเหลือลูกค้าใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การปรับโครงสร้างหนี้ 2.การลดดอกเบี้ย 3.การขยายเวลาชำระหนี้ และ 4.การผ่อนปรนการชำระหนี้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอพพลิเคชัน GHB ALL เริ่มในเดือนม.ค.64 อย่างไรก็ตาม ธอส.จะไม่มีมาตรการในการลดหนี้เงินต้นให้ เพราะธนาคารต้องใช้หลักทรัพย์ที่เป็นบ้านในการค้ำประกัน จึงไม่สามารถหักลดเงินต้นได้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ปัจจุบันมีข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำที่ใช้บริการสินเชื่อของธนาคารออมสินอยู่กว่า 42,700 ราย วงเงินกู้รวม 44,000 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงเหลือ 25,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อแก่ข้าราชการตำรวจฯ ภายใต้บันทึกข้อตกลงการให้สินเชื่อแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีทั้ง เคหะแก่ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และสินเชื่อสวัสดิการสำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
สำหรับโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำจะเข้าไปช่วยลดภาระหนี้สินแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงป้องกันการมีภาระหนี้สินเพิ่มจนเกินความสามารถที่จะชำระได้ ซึ่งจะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความยั่งยืนทางการเงิน โดยจะเข้าไปช่วยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และยึดตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของธนาคาร เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ ผ่อนปรนการชำระหนี้ เป็นต้น