นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ประธานคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่ายืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ก่อนปีใหม่และได้นัดหมายกันว่าจะประชุมสรุปเนื้อหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อไม่เกิดความซับซ้อนในช่วงหลังปีใหม่นี้ซึ่งคาดว่าน่าจะได้พูดคุยกันในสัปดาห์หน้าจากนั้นคาดว่า จะสามารถยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ภายในกลางเดือนม.ค.นี้หรืออย่างช้าที่สุดภายในปลายเดือนม.ค.โดยจะไม่รอยื่นในช่วงใกล้ปิดสมัยประชุมเนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความพร้อมในการอภิปรายอย่างเต็มที่อยู่แล้วสำหรับประเด็นในการอภิปรายนั้นจะเน้นหนักไปที่ความล้มเหลวของรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19ที่รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรที่ชัดเจนและเป็นการแก้ปัญหาโดยจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในหลายกระทรวงโดนอภิปรายด้วยเนื่องจากบริหารประเทศทำให้เกิดความเสียหาย
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามพรรคเพื่อไทยในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19รอบสองที่ส่งผลกระทบต่อการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่อาจไม่ทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาในวันที่28ก.พ.นี้ว่าฝ่ายค้านกังวลเรื่องดังกล่าวอยู่แต่ยืนยันจะยี่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงก่อนสิ้นเดือนม.ค.แน่นอนซึ่งเมื่อยื่นไปแล้วจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระได้เมื่อใดและจะได้เปิดอภิปรายได้เมื่อใดทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่28ก.พ.หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19หากไม่สามารถเปิดอภิปรายได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมก็ต้องมีวิธีการชดเชยด้านเวลาให้เช่น การขยายเวลาประชุมสภาออกไปจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่28 ก.พ.หรือการให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่รู้ว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะใช้วิธีใดแต่ถ้าจะขยายเวลาประชุมสภาคงต้องขยายกันยาวๆเพื่อชดเชยเวลาที่งดประชุมไป2สัปดาห์
นายสุทินกล่าวว่าฝ่ายค้านจะหารือกันวงเล็กในสัปดาห์นี้เพื่อกำหนดกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะมีเนื้อหาอย่างไรมีข้อมูลเรื่องใดบ้างโดยจะพิจารณานำเรื่องความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19รอบสองทั้งเรื่องความบกพร่องในการควบคุมสถานการณ์และการใช้งบประมาณแก้ปัญหาโควิดมาเป็นเนื้อหาการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย.