แบงก์ชาติขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ให้ลูกหนี้รายย่อยยื่นขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อลูกหนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงขอให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการทางการเงิน เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ดังนี้
ขยายเวลาให้ 'ลูกหนี้รายย่อย' ขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการทางการเงิน ได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2564
สินเชื่อบัตรเครดิต
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด
- หรือขยายเวลาชำระหนี้ อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี
สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียน เช่น บัตรกดเงินสด
- ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- หรือเปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด
- หรือขยายเวลาชำระหนี้ อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อเช่าซื้อ (ไม่จำกัดวงเงิน)
- เลื่อนชำระค่างวด (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน
- หรือลดค่างวด โดยขยายเวลาการชำระหนี้
สินเชื่อบ้าน (ไม่จำกัดวงเงิน)
- เลื่อนชำระค่างวด (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน
- เลื่อนชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม
- ลดค่างวด โดยขยายเวลาการชำระหนี้
และให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ให้บริการทางการเงิน ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกประเภท ทั้งลูกหนี้รายย่อย ลูกหนี้ SMEs และลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ ตามความเหมาะสมกับประเภทสินเชื่อและคำนึงถึงความเสี่ยงของลูกหนี้ โดยจำแนกตามลักษณะธุรกิจและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
- ปรับปรุงโครงสร้างหนี้
- ให้เงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติม
- พิจารณาชะลอการชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก. soft loan
- ผ่อนปรนเงื่อนไขอื่นตามความเหมาะสม