นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบนโยบายให้สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครกำหนดมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ค้าและผู้เช่าในตลาดของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครที่ได้รับผลกระทบจากการการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด - 19) ซึ่งคณะกรรมการบริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ได้จัดประชุมในวาระเร่งด่วน โดยมีนายธนูชัย หุ่นนิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครเป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติให้ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ค้าและผู้เช่าในตลาดของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย มาตรการสำหรับตลาดนัดจตุจักรและตลาดนัดมีนบุรี มาตรการสำหรับตลาดธนบุรี และมาตรการสำหรับตลาดชุมชน 7 แห่ง ได้แก่ ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดบางกะปิ ตลาดหนองจอก ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดเทวราช และตลาดสิงหา โดยมีรายละเอียดดังนี้
มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ค้าและผู้เช่าตลาดนัดจตุจักรและตลาดนัดมีนบุรี 1.ขยายอายุสัญญาเช่าแผงค้าภายในตลาดนัดจตุจักรและตลาดนัดมีนบุรีต่อไปอีก 1 ปี 2.ยกเว้นการจัดเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าแผงค้าที่ถูกสั่งปิดกิจการตามประกาศกรุงเทพมหานครเรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 15) และ(ฉบับที่ 16)จนกว่าจะยกเลิกประกาศปิด หากมีการเปิดสถานที่ก่อนวันที่ 31 ส.ค.64 ให้ชำระค่าเช่าในอัตรา 50% (ตามข้อ 3) 3.กรณีผู้เช่าที่ไม่ได้ถูกสั่งปิดกิจการตามประกาศฯ และสัญญาเช่าอื่น ๆ ให้ปรับลดค่าเช่าจำนวน 50% เป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ส.ค. 64 4.ให้ผู้ค้าและผู้เช่าตามสัญญาเช่าอื่นๆ ที่มีหนี้ค้างชำระถึงวันที่ 31 ธ.ค. 63 ให้เริ่มผ่อนชำระหนี้ค้างเป็นระยะเวลา 5 เดือน ๆ ละ 20% ของ หนี้ค้างทั้งหมด โดยเริ่มชำระตั้งแต่เดือนก.ย.64 – ม.ค.65 และงดเว้นค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี)
มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ค้าและผู้เช่าตลาดธนบุรี 1.ยกเว้นการจัดเก็บค่าเช่าและค่าบริการส่วนกลางจากผู้เช่าแผงค้าที่ถูกสั่งปิดกิจการ ตามประกาศกรุงเทพมหานครเรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 15) และฉบับที่ (16) จนกว่าจะยกเลิกคำสั่งปิด หากมีการเปิดสถานที่ก่อนวันที่ 31 ส.ค.64 ให้ชำระค่าเช่าในอัตรา 50% (ตามข้อ 2) 2.กรณีผู้เช่าที่ไม่ได้ถูกสั่งปิดตามประกาศฯ และสัญญาเช่าอื่นๆ ให้ปรับลดค่าเช่าจำนวน 50% เป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ส.ค.64 3.ให้ผู้ค้าและผู้เช่าตามสัญญาเช่าอื่นๆ ที่มีหนี้ค้างชำระตั้งแต่เดือนมี.ค. - 31 ธ.ค.63 ให้เริ่มผ่อนชำระหนี้ค้างเป็นระยะเวลา 5 เดือนๆ ละ 20% ของหนี้ค้างทั้งหมด เริ่มชำระตั้งแต่เดือนก.ย.64 – ม.ค.65 โดยงดเว้นค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี)
มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ค้าและผู้เช่าตลาดชุมชน 1.กรณีสัญญาเช่าแผงค้าและสัญญาเช่าอื่นๆ ที่หมดอายุสัญญาภายในปี 2564 ให้ขยายการชำระเงินค่าต่ออายุสัญญา ต่อไปอีก 6 เดือน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดสัญญา เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการต่ออายุสัญญาเช่า 2.ยกเว้นการจัดเก็บค่าเช่าหรือค่าบริการรายวัน และค่าบริการส่วนกลาง (ถ้ามี) จากผู้เช่าแผงค้าที่ถูกสั่งปิดกิจการ ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 15) และ(ฉบับที่ 16) จนกว่าจะยกเลิกคำสั่งปิด หากมีการเปิดสถานที่ก่อนวันที่ 31 ส.ค. 64 ให้ชำระค่าเช่าหรือค่าบริการรายวันในอัตรา 50% (ตามข้อ 3) 3. กรณีผู้เช่าที่ไม่ได้ถูกสั่งปิดตามประกาศฯ และสัญญาเช่าอื่นๆ ให้ปรับลดค่าเช่าจำนวน 50% เป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 31 ส.ค.64 กรณีตลาดชุมชนที่จัดเก็บค่าบริการเป็นรายวันให้ปรับลดค่าบริการรายวัน จำนวน 50% ตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 64 4.ให้ผู้ค้าและผู้เช่าตามสัญญาเช่าอื่นๆ ที่มีหนี้ค้างชำระตั้งแต่เดือนมี.ค. - 31 ธ.ค.63 ให้เริ่มผ่อนชำระหนี้ค้างเป็นระยะเวลา 5 เดือน ๆ ละ 20% ของหนี้ค้างทั้งหมด โดยเริ่มชำระตั้งแต่เดือนก.ย.64 – ม.ค.65 และงดเว้นค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี)
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด - 19) ในพื้นที่สาธารณะหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่ประชาชนมักมาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคเป็นประจำ สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครได้เข้มงวดการปฏิบัติมาตรการการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตามประกาศของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย ให้ผู้ค้าและผู้มาซื้อสินค้าต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเสมอ การจัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล การเว้นระยะห่างระหว่างแผง การควบคุมการเข้าสถานที่ไม่ให้แออัด การควบคุมทางเข้าออก รวมทั้งจัดให้มีมาตรการคัดกรองอาการป่วยไข้ งดการให้บริการเครื่องเล่นสำหรับเด็ก และการทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ และการกำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยในตลาดของกรุงเทพมหานครและขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคนด้วย