คณะรัฐมนตรี มีมติช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ตามมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน สำหรับประชาชนทั่วไป โดยให้สิทธิค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) นั้น นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า MEA ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบดูแลจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาล ดังนี้
มาตรการที่ 1 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 ได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก (รวมค่าบริการ) โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2564
มาตรการที่ 2 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.2 และ 1.3 ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2564 ดังนี้
(1) กรณีการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มีหน่วยการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับหน่วยประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริงของเดือนนั้น ๆ
(2) กรณีการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มีจำนวนหน่วยมากกว่าเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีแนวดำเนินการ ดังนี้
- หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 500 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน)
- หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มากกว่า 500 หน่วย แต่ไม่เกิน 1,000 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) บวกด้วยหน่วยที่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ในอัตราร้อยละ 50
- หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนได้สิทธิ มากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) บวกด้วยหน่วยที่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ในอัตราร้อยละ 70
มาตรการที่ 3 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดเล็ก ประเภท 2.1 และ 2.2 (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก (รวมค่าบริการ) โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
โฆษก MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าจากใบแจ้งค่าไฟฟ้า หรือ MEA Smart Life Application ได้ดังนี้
- ประเภท 1.1 คือผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งเครื่องวัดขนาด 5(15) แอมแปร์ 230 โวลต์ 1 เฟส 2 สาย มีการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน แต่ถ้ามีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่า 150 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกัน 3 เดือน เดือนถัดไปจะถูกจัดเข้าสู่ประเภท 1.2 และถ้ามีการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกัน 3 เดือน เดือนถัดไปจะถูกจัดเข้าสู่ประเภท 1.1 ตามเดิม
- ประเภท 1.2 คือผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งเครื่องวัดตั้งแต่ขนาด 15(45) แอมแปร์ 230 โวลต์ 1 เฟส 2 สาย ขึ้นไป
- ประเภท 1.3 คือผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้อัตราตามช่วงเวลาของการใช้ ติดตั้งเครื่องวัด TOU (Time of Use)
- ประเภท 2.1 คือผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดเล็ก อัตราปกติ ที่ประกอบธุรกิจ หรือธุรกิจรวมกับที่อยู่อาศัย โดยมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์
- ประเภท 2.2 คือผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลาของการใช้ ติดตั้งเครื่องวัด TOU (Time of Use) ที่ประกอบธุรกิจ หรือธุรกิจรวมกับที่อยู่อาศัย โดยมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์
หน่วยการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบจากใบแจ้งค่าไฟฟ้า หรือ MEA Smart Life Application ตามรอบการจดหน่วยดังนี้
▪️ หน่วยเดือนธันวาคม 2563 ใช้เป็นฐานในการอ้างอิง จดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 13 มกราคม 2564
▪️ หน่วยเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 มีนาคม 2564
▪️ หน่วยเดือนมีนาคม 2564 จดหน่วยในวันใดวันหนึ่งระหว่างวันที่ 14 มีนาคม ถึงวันที่ 13 เมษายน 2564
ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะได้รับส่วนลดโดยอัตโนมัติในค่าไฟฟ้าประจำเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคม 2564 โดยสามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้าและสิทธิส่วนลดการใช้ไฟฟ้าในแต่ละรอบเดือนได้ที่ ใบแจ้งค่าไฟฟ้า, MEA Smart Life Application และ Line: MEA Connect
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถติดต่อทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Twitter: @mea_news, และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 รวมถึงสามารถแจ้งเหตุ หรือตรวจสอบค่าไฟฟ้าได้ผ่าน MEA Smart Life Application และ Line : MEA Connect ได้ตลอด 24 ชั่วโมง