นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า รัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำกินน้ำใช้ หรือน้ำเพื่อการเกษตรก็ตาม ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนิน "โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่" และโครงการต่อยอด ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการพัฒนาน้ำบาดาลของประเทศไทย ที่จะเป็นต้นแบบให้นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำกับพื้นที่อื่นๆ โดยกลุ่มเกษตรกร ที่มีอยู่เดิมจะได้ขยายกลุ่มและขยายพื้นที่ทำกินได้มากขึ้น มีน้ำบาดาลใช้ในการเกษตรได้เพียงพอ ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถเลี้ยงดูครอบครัว และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนได้อย่างทั่วถึง
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558-2562 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6,950 แห่ง และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ถึงปัจจุบัน จำนวน 117 แห่ง สำหรับโครงการ เกษตรแปลงใหญ่ในพื้นที่บ้านหนองอุมลัว หมู่ที่ 6 ตำบลโพนสูง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย มีเกษตรกรได้รับผลประโยชน์ 35 ราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำบาดาลในการเพาะปลูกพืชตามความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น แก้วมังกร เสาวรส อะโวคาโด และทุเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาลที่มีระดับความลึกตั้งแต่ 100-120 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 5.5 แรงม้า จำนวน 4 บ่อ มีระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดไม่น้อยกว่า 5,120 วัตต์ จำนวน 4 ชุด เครื่องผลิตไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ถังเหล็กเก็บน้ำ ขนาดความจุ 120 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง พร้อมท่อกระจายน้ำ