ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
DITP วิเคราะห์นโยบาย “ไบเดน” คาดส่งผลดี เพิ่มโอกาสการค้า การลงทุนไทยในสหรัฐฯ
25 ม.ค. 2564

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) วิเคราะห์นโยบาย “ไบเดน” คาดส่งผลดีต่อการค้าไทย ในการเพิ่มโอกาสขยายการค้า และการลงทุนในสหรัฐฯ และยังใช้ประโยชน์ส่งสินค้าทดแทนจีนได้ต่อ หลังยังไม่ยกเลิกภาษีนำเข้าทันที แต่ต้องระวังการใช้มาตรการกีดกันด้านสิ่งแวดล้อม เตรียมอัดกิจกรรมเต็มสูบ เน้นเกษตร อาหาร และโปรโมตสินค้าไทยทั้งออนไลน์และออฟไลน์ คาดปี 64 ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวได้ 4%

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามนโยบายด้านการค้าของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ว่าจะมีผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย ตามนโยบายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้มอบหมายไว้ พบว่า สหรัฐฯ มีนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติด้วยการสร้างความเข้มแข็งอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ เช่น เวชภัณฑ์ สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง การย้ายฐานการผลิตคืนสู่สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนนโยบาย Buy America และจะลดความตึงเครียดจากสงครามการค้าด้วยการใช้วิถีทางของกฎหมายทางการค้า แต่ยังไม่เปิดเจรจาการค้าใดๆ รวมทั้งจะยกเลิกนโยบายโดดเดี่ยวหันมาสร้างพันธมิตร ให้ความสำคัญกับการต่อสู้โลกร้อน และผ่อนคลายเรื่องแรงงานต่างชาติ เป็นต้น

ส่วนในกรณีของจีน จะไม่ยกเลิกมาตรการต่างๆ ของประธานาธิบดีทรัมป์โดยทันที แต่อาจดำเนินการใน ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และมีแนวโน้มต่อนโยบายในเรื่องการเข้มงวดกับการขายสินค้าเทคโนโลยี และเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่จีน และการจำกัดการนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูงจากจีน ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) นายไบเดนไม่มีนโยบายทำสงครามการค้า เน้นการฟื้นฟูมิตรภาพ แต่ยังต้องแก้ปัญหาความไม่สมดุลการค้าสินค้าเกษตร ในส่วนที่เกี่ยวกับ เม็กซิโกและแคนาดา เห็นว่า สนธิสัญญา USMCA (United States-Mexico-Canada) เป็นข้อตกลงที่ดีกว่า NAFTA (North American Free Trade Agreement) ในด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่เอเชียยังไม่แสดงความเห็นการเข้าร่วม RCEP และ CPTPP แต่นโยบายจะให้ความสำคัญกับเอเชียมากขึ้น รวมถึงมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์และร่วมมือกับ WTO มากขึ้น

นายสมเด็จกล่าวว่า สำหรับผลกระทบต่อไทย พบว่า นโยบายของนายไบเดน น่าจะส่งผลดีทำให้ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศเอเชียดีขึ้น สร้างโอกาสเพิ่มความร่วมมือทางการค้าการลงทุนของธุรกิจสหรัฐฯ ในไทย และช่วยเพิ่มโอกาสให้ไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าที่มีมาตรการทางการค้าสูงหรือไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง โดยใช้สหรัฐฯ เป็นฐานการผลิต และยังจะได้รับผลดีจากการที่สหรัฐฯ ไม่ยกเลิกภาษีนำเข้าจากจีนในทันที ทำให้ไทยยังสามารถใช้ประโยชน์ส่งออกที่ไปทดแทนสินค้าจากจีนได้

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องระวังผลกระทบจากกรณีที่สหรัฐฯ จะพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น ทำให้จะมีการใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) เพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนจะได้รับผลกระทบจากนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อมและรถยนต์ไฟฟ้า และยังให้ความสำคัญเรื่องการผลิตที่จะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องระวังในเรื่องการย้ายฐานการผลิตมาไทยที่จะลดลง หลังจากสงครามการค้าชะลอตัว นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูนโยบายด้านการเงินการคลังของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อค่าเงินบาทในอนาคตได้

นายสมเด็จกล่าวว่า กรมฯ จะยังเดินหน้าขยายตลาดส่งออกในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นตลาดหลักที่สำคัญ โดยปี 2564 ได้ตั้งเป้าขยายตัวที่ 4% โดยสินค้าที่มีศักยภาพ คือ อาหารสำเร็จรูป อาหารเสริม สินค้าที่เกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน วัสดุแต่งสวน สินค้าสัตว์เลี้ยง เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ออกกำลังกาย เกมส์และความบันเทิงภายในบ้าน และสินค้าป้องกันส่วนบุคคล เช่น ผลิตภัณฑ์ PPE เป็นต้น ที่จะมีความต้องการจนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลาย

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับการผลักดันสินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทย โดยสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตรอินทรีย์ ข้าว ผลไม้ไทย สมุนไพรไทย เป็นต้น โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์และสตาร์ทอัป จะได้เข้าร่วมกิจกรรมงานแสดงสินค้าในรูปแบบออนไลน์ และสำหรับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในสหรัฐฯ รวมถึงจัด Virtual Trade Show ในกลุ่มสินค้าอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ทางการแพทย์ (PPE) เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจรจาธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย นอกจากนี้จะได้เน้นการจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดสหรัฐฯ อีกด้วย

ที่สำคัญ จะได้เร่งพัฒนาและส่งเสริมการค้าปลีกสมัยใหม่ผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ   ผ่านการจัดตั้งห้างสรรพสินค้าออนไลน์ TOPTHAI Store บนแพลตฟอร์ม Amazon.com ,การประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย เจาะกลุ่มผู้บริโภค Millennials and Gen Z ผ่าน Social Influencers ต่าง ๆ เป็นต้น ,

โฆษณาประชาสัมพันธ์ตรา Thai Select ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมร้านอาหารที่เป็นสมาชิก  Thai Select ใน Social Media ต่างๆ , ประชุมหารือกับผู้นำเข้ารายสำคัญเพื่อติดตามสถานการณ์ และนำเสนอสินค้าไทยรายการใหม่ๆ รวมถึงประชาสัมพันธ์ชักชวนให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า กิจกรรมในไทยในปี 2564 และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการค้าการลงทุนในสหรัฐฯ ผ่านเว็บไซต์ ThaiTradeUSA.com

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...