และแล้ว “เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช นักการเมืองจอมสีสัน แห่งค่ายประชาธิปัตย์ ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (4) มาตรา 96(2)
โดยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง และมีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 16 กันยายน 2563 และให้ถือว่าอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง 27 มกราคม 2564 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตว่างลง ปิดฉากการเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 สมัยซ้อน ตั้งแต่การเลือกตั้ง 6 มกราคม 2544
จุดเริ่มต้นของคดีนี้ เมื่อนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ น้องชายนายเทพไท กรณีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อปี 2556 เรื่องไปตามขั้นตอนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง และในปี 2558 ศาลก็ให้ใบแดง “นายมาโนช”
ต่อมา “พิชัย” ได้ยื่นต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เอาผิดทางอาญา ฟ้องมาโนช เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิด ในการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช
ในฐานทำผิด พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ในความผิดฐาน “เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงแก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครอื่น”
28 สิงหาคม 2563 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ โดยสั่งจำคุกนายเทพไทและน้องชายนายมาโนช คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ทว่าคดียังเป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น และนายเทพไท ใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์
อย่างไรก็ตาม ผลจากคำตัดสินดังกล่าว กกต.ได้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า กรณีนายเทพไทจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ด้วยหรือไม่
16 กันยายน 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของ กกต.และมีคำสั่งให้ นายเทพไท หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
23 ธันวาคม 2563 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีนายเทพไท และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือลงมติในวันพุธที่ 27 ม.ค. 64 เวลา 09.30 น. และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังเวลา 15.00 น.
เมื่อ 5 มกราคม 2564 หลังผ่านเทศกาลปีใหม่ นายเทพไทยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้บุคคลที่นายเทพไทอ้างเป็นพยาน ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และนายคมสัน โพธิ์คง ให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาล และขอเลื่อนการพิจารณาวินิจฉัยออกไปจนถึงวันที่ 25 มีนาคม เพื่อรอฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8
7 มกราคม 2564 ปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของนายเทพไท แล้วเห็นว่าศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ศาลสั่งให้ยุติการไต่สวนแล้ว
เนื่องจากคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ไม่มีเหตุผลที่จะกลับคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตตามที่นายเทพไทขอ
27 มกราคม 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายเทพไทสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.