นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในภาคธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และตนในฐานะผู้กำกับดูแลหน่วยงานภาคการขนส่งทางน้ำ จึงได้สั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการการท่าเรือฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งในส่วนของท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ดังนี้
1.ให้ท่าเรือกรุงเทพปรับลดค่าภาระตู้สินค้าเปล่าขาเข้า ผ่านท่าเรือกรุงเทพ ในอัตรา 1,000 บาท ต่อทีอียู เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.64 รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นจำนวนเงินประมาณ 5,280,000 บาท และ 2.ให้ท่าเรือแหลมฉบังชดเชยค่ายกขนตู้สินค้าให้แก่เอกชนผู้ประกอบการนำเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยจ่ายส่วนลดคืนในอัตรา 1,000 บาท ต่อทีอียู เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.64 รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เป็นจำนวนเงินประมาณ 384,000,000 บาท
โดยมาตรการที่ออกมานี้ เป็นการลดอัตราค่าภาระและค่าใช้จ่าย เพื่อจูงใจให้สายเรือนำตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเข้ามาให้บริการ เพื่อแก้ไขปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน แต่อย่างไรก็ตามจากการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ขาดแคลนตู้สินค้าจะคลี่คลายในช่วงไตรมาส ที่ 2 ของปี 64 เนื่องจากการส่งออกของผู้ส่งออกรายใหญ่เริ่มอิ่มตัว และสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลงจะทำให้ตู้สินค้าที่ตกค้างจากประเทศปลายทาง (ยุโรปและสหรัฐอเมริกา) เริ่มหมุนเวียนกลับสู่ระบบมากขึ้น