นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เผยว่า จากการที่ อ.เชียงของมีด่านตรงสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวและเชื่อมต่อไปถึงมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ผ่านถนน อาร์ 3 เอ เส้นทางเศรษฐกิจ (ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้) รวมทั้งยังมีท่าเรือแม่น้ำโขงสามารถค้าขายกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและเชื่อมการท่องเที่ยวไปถึงเมืองหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาวด้วยนั้น ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นมาตามลำดับ แต่ในปี 2559 นี้พบการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอุปสรรคต่อการค้ามากพอสมควร โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่าทางด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาวมีการเก็บค่าธรรมเนียมตู้สินค้าคอนเทนเนอร์จากเดิมตู้ละ 10,000 บาท เพิ่มเป็น 50,000 บาท หรือ 5 เท่าตัว
นอกจากนี้ด่านพรมแดนฝั่ง สปป.ลาว ยังมีการเข้มงวดกับสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงมาก โดยสินค้าทุกชนิดที่ถูกส่งออกข้ามฝั่งไปจะถูกตรวจสอบ หากพบข้อสงสัยว่ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ด้วยจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นมูลค่ากว่า 100% ของมูลค่าสินค้านั้นๆหรือแม้แต่สินค้าผ่านแดนประเภทข้าวที่มีการส่งออกผ่าน สปป.ลาว จะไปส่งที่มณฑลยูนนานประเทศจีนก็ยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมในราคาสูง ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้แล้ว ทางนักธุรกิจได้พยายามสอบถามข้อมูลไปยังด่านพรมแดนตรงสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว ทั้ง 3แห่งที่เหลือ พบว่าไม่มีด่านพรมแดนใดเก็บค่าธรรมเนียม หรือภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนสะพานแห่งที่ 4 แต่อย่างใด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามรวบรวมข้อมูลการค้าชายแดนและนำเสนอไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้นำเข้าที่ประชุมในระดับต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากถนนอาร์ 3 เอ และสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 นี้ มีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศอย่างมากดังนั้น หากมีอุปสรรคปัญหาด้านการค้าการลงทุน ย่อมกระทบมาถึงสินค้าส่งออกของประเทศไทยด้วย