ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
รมว.คลัง เปิดศูนย์ OTOP ศรีสะเกษ แหล่งรวมภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
07 ก.พ. 2564

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ OTOP ศรีสะเกษ โดยมี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และแขกผู้มีเกียรติฯ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดศูนย์ OTOP ศรีสะเกษ แหล่งรวบรวมภูมิปัญญา วัฒนธรรม และสินค้าของชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นแหล่งเรียนรู้ และพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการในด้านการตลาด เป็นศูนย์รวมและกระจายสินค้า รองรับนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างจังหวัดที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด พัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ภาคีเครือข่ายการพัฒนา องค์กรภาคเอกชน กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP และประชาชนชาวศรีสะเกษร่วมให้การต้อนรับ ณ ลานของดี๊เมืองศรีเกษ (บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ หลังที่ 3) ศูนย์ OTOP ศรีสะเกษ

ในการนี้ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้กล่าวรายงานการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนการผลิตและจำหน่ายสินค้า OTOP เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสืบสาน รักษา ต่อยอด ให้ชุมชนเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยจังหวัดศรีสะเกษได้ประกาศวาระจังหวัดศรีสะเกษในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวศรีสะเกษ ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นกลไกสำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน และจังหวัดศรีสะเกษได้ประกาศวาระจังหวัดในการพัฒนาผ้าทอ โดยขับเคลื่อนภูมิปัญญาด้วยการพัฒนาคุณภาพการผลิตให้มีมาตรฐาน และการสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น การฝึกอบรมทักษะการแส่ว การนำวัสดุธรรมชาติมาย้อมผ้า ภายใต้แนวคิด “ศรีสะเกษธานีผ้าศรี…แส่ว” ซึ่งการจำหน่ายสินค้า OTOP ในปี 2563 มียอดการจำหน่ายจำนวน 6,125,553,509 บาท โดยสินค้าประเภทผ้ามีเป้าหมายการจำหน่าย 1 พันล้านบาท จำหน่ายได้ 978,342,747 ล้านบาท และในปี 2564 ได้นำยุทธศาสตร์การพัฒนา ย้อม ทอ แส่ว ออกแบบ แปรรูปและจำหน่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 1 พันล้านบาท โดยใช้ศูนย์ OTOP เป็นสถานที่บริการนักท่องเที่ยวทั้งภายในและภายนอกจังหวัด รวมถึงเป็นสถานที่รับออเดอร์ออนไลน์ และเป็นที่รวบรวมการสั่งซื้อออนไลน์อีกช่องทางหนึ่ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้มีการบูรณาการขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วนทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการนำนโยบายของรัฐบาลมาใช้ในระบบการซื้อขาย เช่น โครงการช๊อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง และโครงการไทยชนะ ซึ่งทำให้ยอดการผลิต และจำหน่ายสินค้า OTOP ทุกประเภท มีการหมุนเวียนซื้อ-ขาย ลดลงเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศูนย์ OTOP จังหวัดศรีสะเกษ จึงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้า OTOP ของจังหวัดศรีสะเกษ อย่างครบวงจร โดยเปิดให้บริการประชาชนผู้สนใจทั่วไป ภายใต้แนวคิด “มาหน้าร้านเราขาย สั่งออนไลน์เราส่ง” อันเป็นการสร้างช่องทางการกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าและรายได้ให้กับพี่น้องชาวศรีสะเกษอย่างยั่งยืน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้มีนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอัตลักษณ์เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยรัฐบาลจะสนับสนุนช่วยเหลือด้านความรู้สมัยใหม่และการบริหารจัดการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำสู่เป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ

1. พัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพระดับสากล

2. มีเอกลักษณ์เป็นที่ลือชื่อเพียงหนึ่งเดียว

3. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการปรับปรุงเทคโนโลยี

ทั้งนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันส่งเสริมให้เกิดศูนย์ OTOP จังหวัดศรีสะเกษในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากโดยใช้กลไกประชารัฐในพื้นที่ ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมทุกระดับบูรณาการความร่วมมือขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ยึดความต้องการของประชาชนในพื้นที่และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาสร้างการพัฒนาเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...