แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นายวีระ หรือ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ , นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นายแพทย์เหวง โตจิราการ และ นายนิสิต สินธุไพร 5 แกนนำจำเลยในคดีร่วมกับพวกรวม 24 คน ก่อการร้าย เดินทางมายังศาลอาญา ตามที่ศาลนัดฟังคำสั่ง ที่อัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวของจำเลยกรณีให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดเห็นมีลักษณะก่อให้เกิดความวุ่นวายเข้าข่ายผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยชั่วคราวว่าห้ามการปราศรัยปลุกปั่น ซึ่งอัยการได้ยื่นพยานหลักฐานเป็นซีดีบันทึกภาพและเสียงให้ศาลพิจารณา ขณะที่จำเลยได้ยื่นคำให้การต่อศาลเป็นลายลักษณ์อักษรในนัดก่อน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายจตุพร กล่าวด้วยว่าได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนพยานจำเลยและทนายความ และในวันนี้ได้เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเป้มาด้วย โดยยืนยันไม่ใช่การแก้เคล็ด หรือ ลางบอกเหตุ แต่ตัวเองเคยติดคุกมา 2 ครั้ง จึงต้องเตรียมพร้อม ขณะที่ศาลเห็นว่าที่จำเลยยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนพยานนั้น ศาลได้พิจารณาแผ่นซีดีบันทึกภาพและเสียง และข้อเท็จจริงในคดีเพียงพอที่จะวินิจฉัยแล้ว จึงไม่ต้องไต่สวนพยานอื่นประกอบอีก ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่จำเลยได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ และการลงประชามติ สามารถกระทำได้ ย่อมมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความชอบธรรม แต่ไม่ควรกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ ของบุคคลอื่น
อย่างไรก็ตามจากหลักฐานมีเฉพาะนายจตุพร จำเลยที่ 2 เป็นผู้กล่าวพาดพิง และมีบางช่วงบางตอนค่อนข้างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสียหาย แม้ผู้ถูกพาดพิงสามารถดำเนินการได้ก็ตาม แต่การที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก็เพื่อควบคุมป้องกันไม่ให้มีการกระทำอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน กรณีที่นายจตุพร ออกรายการโทรทัศน์กล่าวพาดพิงบุคคลอื่น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศ และชื่อเสียง ถือว่าเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวที่ศาลกำหนดไว้ ส่วนจำเลยที่เหลือ เป็นการแสดงความคิดเห็น ติชม โดยสุจริต ศาลจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราวเฉพาะนายจตุพร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายจตุพร ขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป