ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
ศาลสั่งคุก 'ดีเจมะตูม' จัดปาร์ตี้ติดโควิด-19
19 ก.พ. 2564

ที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยวาจา นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม  อายุ 31 ปี ในฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 

โดยอัยการยื่นฟ้องด้วยวาจาสรุปได้ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9-10 ม.ค. 2564 ซึ่งอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร จำเลยกับ นายพรศักดิ์ อัจฉริยะประดิษฐ์, นายจารุกิตติ์ ศรีสวัสดิ์, นายกิตติ์ธเนศ บุญยชัยธนรัตน์, น.ส.ชุติมา สินวิโรจน์, นายกษิภัท ถิระวรรณธร กับ น.ส.จิราภรณ์ มหาวัตร และพวกอีก 27 คน ซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันกินเลี้ยงฉลองวันเกิดของจำเลย ที่บริเวณห้องพัก โรงแรมบันยันทรี ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. อันเป็นการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมากถึง 34 คน ในห้องพัก ซึ่งเป็นห้องที่ปิดมิดชิด ทั้งยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การควบคุมสติลดลง จนไม่มีการรักษาระยะห่างระหว่างกัน และไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย อันเป็นการร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในสถานที่แออัด ในเขตพื้นที่ที่ได้มีการประกาศกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ต่อมาวันที่ 19 ก.พ. 2564 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ

จำเลยกระทำโดยรู้สำนึกในการกระทำ แต่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวมในการป้องกันและควบคุมมิให้โรคระบาดแพร่ออกไปในวงกว้าง ซึ่งหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของจำเลย มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสิ้น 9 คน รวมทั้งตัวจำเลยด้วย แต่คณะผู้สอบสวนโรค สำนักอนามัย ไม่ได้เปิดเผยชื่อผู้ติดเชื้อทั้งหมด เนื่องจากเป็นความลับตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนักเพื่อให้เข็ดหลาบ ในชั้นสอบสวนจำเลยให้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ก่อนเริ่มพิจารณา ศาลได้สอบถามจำเลยเรื่องทนายความ จำเลยไม่มีและไม่ต้องการทนายความ จึงอ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังและได้ดำเนินกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยอธิบายสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ตลอดจนแนวทางทางในการบรรเทาความเสียหายแก่ผู้เสียหาย (ถ้ามี) ให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 มาตรา 9, 18 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 10,000 บาท แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลย โดยจำเลยต้องมารายตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้งในกำหนด 1 ปี และห้ามมิให้จำเลยร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในสถานที่แออัดในลักษณะเช่นเดียวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ ภายในกำหนด 3 เดือน หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา ม.29, 30.

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...