นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมาย วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2564) พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯพร้อมด้วย พล.ต.ต. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ. ศารุติ แขวงโสภา, พ.ต.อ. ศรีศักดิ์ คัมภีรญาณ, พ.ต.อ. ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานปราบปรามฯ, พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.,และ ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายลักลอบขายยาทำแท้งเถื่อนทางสื่อทวิตเตอร์รายใหญ่ ดังนี้
พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการคณะทำงานปราบปรามผลิตภัณฑ์ และการบริการด้านสุขภาพที่ผิดกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก. ปคบ.) สืบสวนหาตัวผู้ลักลอบขายยาทำแท้งผ่านทางสื่อทวิตเตอร์ โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยมากว่า 1 เดือน จนพบเครือข่ายลักลอบขายยาทำแท้งรายใหญ่ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 64 จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งย่าน อ. เมือง จ. เชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน เป็นผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ส่งยา ผู้รับโอนเงินเข้าบัญชี และแม่ค้ารายย่อย จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบเครือข่ายดังกล่าวซื้อยาจากร้าน ป.เภสัช อ. เมือง จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านขายยาที่ไม่ได้รับอนุญาตและเภสัชกรเจ้าของร้านเคยถูกจับกุมในคดีขายยาทำแท้งเถื่อนมาแล้ว จากนั้นในวันที่ 17 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าวและสามารถจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ได้อีก 4 คน ในเขตกรุงเทพฯ กาญจนบุรี นนทบุรี และสมุทรสาคร รวมของกลางที่พบทั้งหมด ได้แก่ ยาทำแท้ง 943 เม็ด ยี่ห้อ Cytolog® และ MTPill® ยาแผนปัจจุบัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง โทรศัพท์ สมุดบัญชี และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐานร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต/ที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา, ร่วมกันโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกหรือยาขับระดูอย่างแรงและไม่ได้รับอนุญาต มีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วหากพบเป็นการกระทำความผิดฐานใดก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป ส่วนเจ้าของร้านขายยาซึ่งเป็นเภสัชกร อย. จะส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพต่อไป
พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการปรับปรุงกฎหมายให้หญิงอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถทำแท้งได้ แต่การทำแท้งต้องทำอย่างถูกกฎหมายภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตการดำเนินงานร่วมกันในครั้งนี้ สามารถสืบหาแหล่งลักลอบขายยาทำแท้งรายใหญ่ ไม่ให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้รับอันตราย หากพี่น้องประชาชนทราบเบาะแสการลักลอบผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน ปคบ. 1135