นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า วันนี้เอไอเอส ได้ชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 26GHz เป็นจำนวนเงิน 5.719 พันล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคลื่นความถี่ดังกล่าว เป็นย่านความถี่สูง มีแบนด์วิธ 1200MHz ทำให้เวลานี้ เอไอเอส มีคลื่นความถี่ 5G ได้แก่ คลื่น 700MHz, 2600MHz และ 26GHz รวมคลื่นความถี่ในการให้บริการทั้งหมดที่ 1420MHz
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ในปี 2564 เป็นปีที่มีความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา เอไอเอสได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตดีไวซ์สำหรับ 5G ตลอดจนการทดสอบ 5G ทั้งในส่วนของผู้บริโภคและโรงงานอุตสาหกรรม
หัวเรือใหญ่เอไอเอส เปิดเผยต่อไปว่า ในส่วนการครอบคลุม 5G คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี เนื่องจากต้องรอดีไวซ์ที่จะรองรับ 5G ส่วนการขยายการให้บริการ 5G จะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานและความต้องการในพื้นที่นั้นๆ
สำหรับงบลงทุนที่เอไอเอส เตรียมไว้ในการพัฒนาเครือข่ายอยู่ที่ 25,000 - 30,000 ล้านบาท โดยจะพัฒนาทั้งเครือข่าย 5G และ 4G
ขณะที่นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G เป็นเทคโนโลยีที่เขียนมาเพื่อใช้งานในระดับอุตสาหกรรม มิได้เป็นส่วนเสริมแต่อย่างใด
ในส่วนของคลื่นความถี่ 26GHz เป็นคลื่นที่เหมาะกับการดำเนินการในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นคลื่นที่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่หนาแน่น มีความหน่วงต่ำ และไม่มีปัญหาเรื่องของการกวนกันของคลื่นสัญญาณ
นายวสิษฐ์ เปิดเผยอีกด้วยว่า คลื่น 26GHz มีข้อดีที่สามารถออกแบบเครือข่ายให้สอดรับกับลักษณะธุรกิจที่มีความแตกต่างของแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ คลื่น 26GHz สามารถให้บริการได้ทันที จึงสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor)