นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศคู่ค้าที่สำคัญได้หันมาใช้มาตรการทางการค้าเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากสหรัฐนำมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) มาใช้กับสินค้ายางรถยนต์กับหลายประเทศรวมทั้งไทย และประเทศคู่ค้าในประเทศอาเซียน อาทิ เวียดนามได้นำมาตรการ AD และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) มาใช้กับสินค้าน้ำตาลที่นำเข้าจากหลายประเทศรวมทั้งไทยและฟิลิปปินส์
นำมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard Measure: SG) มาใช้กับสินค้ารถยนต์ที่นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก ประกอบกับเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง เพราะทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 พาณิชย์จึงดำเนินมาตรการเชิงรุก โดยการวางกลยุทธ์แก้ต่างให้กับสินค้าส่งออกไทยเพื่อสร้างความเป็นธรรม และสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก
กรณีการไต่สวน AD สินค้ายางรถยนต์ของสหรัฐ ซึ่งได้กล่าวหาไทยว่ามีอัตราการทุ่มตลาดในสินค้าดังกล่าวอยู่ที่ 106.4-217.5% โดยพาณิชย์ได้จัดประชุมหารือกรณีดังกล่าวร่วมกับตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ต่าง และได้จัดให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับมาตรการ AD และกระบวนการไต่สวนฯ ของสหรัฐ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินการแก้ต่างต่อไป
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานไต่สวนของสหรัฐ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ความเห็นในการแก้ต่างให้กับผู้ประกอบการยางรถยนต์ไทยต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาทำให้ผลการพิจารณา AD เบื้องต้นของสหรัฐ พบว่าผู้ส่งออกสินค้ายางรถยนต์ของไทยมีอัตราอากร AD ต่ำกว่าประเทศคู่แข่งคือ อยู่ที่ 13.25-22.21%
นายกีรติ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พาณิชย์ไม่เคยนิ่งนอนใจเมื่อรัฐบาลต่างประเทศเปิดไต่สวน เพื่อกำหนดมาตรการ ซึ่งพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการแก้ต่าง กรณีถูกไต่สวน AD CVD และ SG และเป็นพี่เลี้ยงเพื่อให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชนในการแก้ต่างตามข้อกล่าวหาตามมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการท้วงติงเพื่อรักษาสิทธิให้แก่ภาคเอกชนที่จะต้องได้รับความเป็นธรรมและความโปร่งใสระหว่างกระบวนการไต่สวนจากรัฐบาลต่างประเทศตามมาตรฐานสากล
สำหรับรายการสินค้าอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการไต่สวน เช่น สินค้าน้ำตาลที่เวียดนามไต่สวน AD และ CVD และสินค้ายานยนต์ที่ฟิลิปปินส์ไต่สวน SG พาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ต่าง โดยการแสดงข้อโต้แย้งและชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมและชอบธรรมต่อการกำหนดมาตรการโดยรัฐบาลประเทศผู้ฟ้อง หรือการตอบแบบสอบถามเพื่อชี้แจงข้อมูล/ข้อเท็จจริงว่าไทยไม่ได้มีพฤติกรรมการตามที่ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ พาณิชย์ยังได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกลยุทธ์การต่อสู้ที่เหมาะสมในแต่ละกรณี รวมทั้งจะติดตามความคืบหน้าของการใช้มาตรการดังกล่าวของประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด และแจ้งผลให้กับผู้มีส่วนได้เสียทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งออก และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันมูลค่าทางการค้าของไทยในเวทีโลกต่อไป