คมนาคม เตรียมเปิดให้เอกชนเดินรถไฟ ขนส่ง “ผู้โดยสาร-สินค้า” นำร่อง 2 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ขอนแก่น และแหลมฉบัง-ท่าพระ
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา ขร. ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทาง โดยใช้ช่วงเวลาที่นอกเหนือจากการใช้ทางของการ รถไฟ แห่งประเทศไทยหรือ รฟท.มาเดินรถ และให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน
โดยจ่ายค่าเช่าใช้ทางให้ รฟท. เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์รางให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน เบื้องต้นมีแผนที่จะนำเส้นทางเดินรถไฟที่มีศักยภาพ จำนวน 2 เส้นทาง มาจัดสรรเวลาการให้เดินรถ ให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนได้ ได้แก่
โครงการรถไฟโดยสาร เส้นทาง กรุงเทพฯ-ขอนแก่น รองรับผู้โดยสารจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 2 เมืองหลัก คือ จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 450 กิโลเมตร โดยเพิ่มการให้บริการรถไฟโดยสาร รวม 6 ขบวน คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2,000-2,220 คนต่อวัน และยังมีศักยภาพในการขยายตัวเพื่อรองรับการเดินทางในอนาคต และโครงการขนส่งสินค้า เส้นทาง แหลมฉบัง-ท่าพระ ระยะทาง 501 กิโลเมตร ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ 60,000-100,000 ตู้ต่อปี เส้นทางศักยภาพในการขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าว น้ำตาล ยางพารา มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกทางทะเลหลักของประเทศ อีกทั้งในอนาคตถือเป็นเส้นทางรองรับความต้องการสินค้าประเภทแร่ หรือสินค้าจากจีนและ สปป.ลาวที่ส่งผ่านทางท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย
นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าว มีความเหมาะสมทั้งในด้านความต้องการในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในปัจจุบันและด้านศักยภาพในการขยายตัวของการขนส่งและผู้โดยสารในอนาคต ทั้งน ขร. พร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมให้บริการเดินรถในเส้นทางที่มีศักยภาพ เพื่อเร่งยกระดับการให้บริการด้วยระบบรางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและจะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของอาเซียนได้ในอนาคต