นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาข้าวให้มีคุณภาพดี เพื่อที่จะมีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงและมีรายได้มากขึ้น
โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราไร่ละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 28,000 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกรจำนวน 4.56 ล้านครัวเรือน โดย ธ.ก.ส. จะทยอยโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. – 30 เม.ย. 2564 จำนวนกว่า 160,000 ราย จำนวนเงินกว่า 1,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้เห็นชอบโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 โดยเป็นการปรับกรอบวงเงินจาก 19,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 4,504 ล้านบาท ประกอบด้วย วงเงินสินเชื่อ จำนวน 3,500 ล้านบาท วงเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าว จำนวน 480 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จำนวน 524 ล้านบาท รวมเป็น 24,330 ล้านบาท เพื่อรองรับการชะลอปริมาณข้าวเปลือกเพิ่มเติม จำนวน 0.32 ล้านตันข้าวเปลือก รวมเป็น 1.82 ล้านตันข้าวเปลือก พร้อมขยายระยะเวลาจัดทำสัญญากู้จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. 2564 เป็นวันที่ 31 มี.ค. 2564
และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 (เพิ่มเติมครั้งที่ 2) โดยขอปรับกรอบวงเงินจากเดิม 46,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 3,839 ล้านบาท รวมเป็น 50,646 ล้านบาท โดยเป็นเงินชดเชยการประกันรายได้ให้เกษตรกร วงเงิน 3,755 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ วงเงิน 84 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2563/64 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ธ.ก.ส. จะดำเนินการเมื่อ ครม. มีมติให้ความเห็นชอบแล้ว