รมช.มนัญญา ร่วมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ปี 64 พร้อมขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ก้าวสู่การเป็น Smart Coop สร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกและชุมชน
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมงานวันสหกรณ์แห่งชาติ และได้ทำการอ่านสารนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ว่า นับเป็นระยะเวลากว่า 105 ปี ที่ระบบสหกรณ์มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานราก ทั้งในภาคการเกษตร การผลิต การบริการ อีกทั้งมีส่วนสำคัญในการยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิต และความสุขของสมาชิกและคนในชุมชน โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมพิธีสงฆ์และวางพานพุ่มถวายสักการะพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย เนื่องในงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ปี 2564 ณ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์
รมช.มนัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับระบบสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นกลไกพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีส่วนสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิกสหกรณ์และคนในชุมชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น สหกรณ์ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการผลิต การค้า และการบริการ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ และเชื่อมั่นว่าสหกรณ์จะสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ สามารถบริหารงานให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ โดยส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และภูมิปัญญา อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะของชุมชนและท้องถิ่น รวมทั้งสร้างและส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่ ก้าวสู่การเป็น Smart Coop ซึ่งจะทำให้สมาชิกสหกรณ์มีความมั่นคงในอาชีพ สหกรณ์เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพพึ่งพาตนเองได้ และชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
“ทิศทางการขับเคลื่อนระบบสหกรณ์สิ่งสำคัญคือผลประโยชน์สามารถกลับคืนสู่สมาชิก โดยได้ทำความเข้าใจกับสหกรณ์ทุกประเภท ในเรื่องของการออกกฎระเบียบใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานของสหกรณ์มีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดหาโรงสี โรงอบอบ เพื่อให้เกิดการชะลอข้าวแก่เกษตรกร เกษตรกรสามารถขายข้าวเอง ทำให้ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ นอกจากนี้ ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินนโยบายสำคัญ ได้แก่ โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน โครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมุ่งหวังให้ระบบสหกรณ์จะช่วยสนับสนุน กระจายสินค้าเกษตรให้สามารถขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีแนวคิดสหกรณ์กัญชา โดยเป็นตลาดกลางของกัญญา จะทำให้สามารถควบคุมการผลิตได้โดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ” รมช.มนัญญา กล่าว