ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ. 2564 โดยระบุข้อความว่าประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ในวันที่ 27 ก.พ. 2564 โดยในตอนกลางวันพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียสขึ้นไป ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมแทน ซึ่งเป็นการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย และคาดว่าฤดูร้อนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 นั้น
นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อนจะมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าและสถิติแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น MEA จึงมีการจัดเตรียมแผนงานปรับปรุงสำหรับรองรับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA และ ระบบ DMS ในการควบคุมแรงดันและการจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความเพียงพอมั่นคงและปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังมีระบบการทำงานภาคสนาม ที่เน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ หรือ ที่เรียกว่า FFM โดยใช้ MEA Smart Life Application ที่สามารถถ่ายภาพ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องได้ทันที ทำให้ระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ MEA เป็นไปอย่างมั่นคงตลอดฤดูร้อนปี 2564
สำหรับข้อแนะนำการประหยัดไฟฟ้า ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอและ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด - ปรับ - ปลด - เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26 องศาเซลเซียส ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า
นอกจากนี้ MEA เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อนของทุกปีเนื่องจากมักจะเกิดพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้า และลงพื้นที่บำรุงรักษาระบบจำหน่าย ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า ตลอดจนมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรองในสถานที่สำคัญ เพื่อให้ระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ MEA มีประสิทธิภาพ ดูแลระบบไฟฟ้าให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนพบเห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดหรือไม่ปลอดภัยสามรถแจ้งได้ที่ MEA Smart Life ดาวน์โหลดได้ที่ >> http://onelink.to/measmartlife แอปเดียวจบครบทุกเรื่องไฟฟ้า ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter: @mea_news, และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130