นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การเจรจาการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (เฉลิมรัชมงคล) เดิมกับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ตามคำสั่งมาตรา 44 ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งคณะกรรมการร่วมฯ ในการเจรจาอยู่ระหว่างทำเรื่องเสนอมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอขยายเวลาในการเจรจาต่อไป
แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 และคณะกรรมการมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ได้กำหนดกรอบหลักเกณฑ์การเจรจาการเดินรถสายสีน้ำเงินเดิมและส่วนต่อขยายแบบต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกันแล้ว และได้มีการเจรจากับ BEM ในกรอบเวลา 30 วัน (17 ก.ย.-16 ต.ค. 59) แต่การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติในหลายประเด็น ทำให้ต้องเสนอขอขยายเวลาในการเจรจากับ BEM อีก 30 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอเรื่องไปยัง รมว.คมนาคม
โดยประเด็นที่เห็นตรงกันทั้งสองฝ่ายแล้ว คือ ขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล ที่สัญญาจะสิ้นสุดในปี 2572 พร้อมกับสัญญาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ไปสิ้นสุดในปี 2592, โครงสร้างอัตราค่าโดยสารของสายสีน้ำเงินตลอดสาย (สายน้ำเงินเดิม ตั้งแต่บางซื่อ-หัวลำโพง และส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) จะไม่เพิ่มไปจากอัตราเดิมที่เก็บในปัจจุบันของสายเฉลิมรัชมงคล โดยอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่ 42 บาท ซึ่งเท่ากับในส่วนต่อขยายจะไม่มีค่าแรกเข้า เพราะจะรวม 2 ส่วนเป็นโครงข่ายเดียวกัน