นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีโครงการโฮปเวลล์ว่า ตามที่ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางละเมิด ตามคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ ในการประชุมนัดแรกนั้น ได้มีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม เพื่อมาพิจารณาทางอาญา ในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และทำให้เกิดความเสียหาย โดยหลังจากนี้ นายชยธรรม์ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นนั้น จะนัดประชุมครั้งที่ 2 อีกครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า จะสามารถต่อสู้คดีได้
“เรื่องโฮปเวลล์ ท่านปลัดฯ ได้ประชุมนัดแรกไปแล้ว และจะมีการนัดประชุมครั้งที่ 2 โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม ไม่ใช่แค่เรื่องละเมิด แต่ต้องพิจารณาเรื่องอาญาด้วย เราต้องมาดูข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งอะไรถูกก็ว่าถูก อะไรผิดก็ผิด ไม่มีว่าอะไรถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูก โดยผมมั่นใจว่า ต่อสู้คดีได้ ในส่วนของดอกเบี้ย ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายคืนเงินค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่บริษัทโฮปเวลล์รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีนั้น ก็เดินไป แต่ผมเชื่อว่า เมื่อได้รับการพิจารณา และคิดว่าจะชนะ จะไม่ต้องเสียเงินเลย และจะพิจารณาในทุกทางต่อไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ว่า ยังไม่ได้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จึงยังไม่นับอายุความตามมาตรา 9 ซึ่งระบุไว้ว่า ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้อีกฝ่ายหนึ่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มีกำหนดอายุความหนึ่งปี นับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นแก่ผู้เสียหายนั้น ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชย จึงยังไม่นับอายุความ อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด และพิจารณาอย่างละเอียด เนื่องจากโครงการดังกล่าว รวมถึงปัจจุบันแล้วกว่า 32 ปี และมีหลักฐานเยอะที่ต้องพิจารณา