นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้พิจารณาเปิดการเดินรถเพิ่มเติม เพื่อสอดคล้องกับแนวทางการผ่อนปรนมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้น โดยเส้นทางภาคเหนือ เปิดให้บริการ 21 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ – ท่าตอน, กรุงเทพฯ- เชียงใหม่, กรุงเทพฯ – เชียงราย, กรุงเทพฯ – น่าน, กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง, กรุงเทพฯ – ลำปาง, กรุงเทพฯ – บ้านตาก, กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์, กรุงเทพฯ – แม่สอด, กรุงเทพฯ- แม่สาย, กรุงเทพฯ-ป่าแดด เชียงของ, กรุงเทพฯ – เชียงคำ, กรุงเทพฯ – จอมทอง, กรุงเทพฯ -ลี้ ลำพูน, กรุงเทพฯ -หล่มเก่า, และกรุงเทพฯ -คลองลาน เริ่มปรับตารางเดินรถตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564
เส้นทางเดินรถภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก เปิดให้บริการ 21 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ – โขงเจียม, กรุงเทพฯ – สกลนคร, กรุงเทพฯ – มุกดาหาร, กรุงเทพฯ – นครพนม, กรุงเทพฯ –
เชียงคาน, กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ – นาเชือก ร้อยเอ็ด, กรุงเทพฯ – หนองบัวลำภู , กรุงเทพฯ – ตราด, กรุงเทพฯ – หนองคาย, กรุงเทพฯ – สุรินทร์, กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ – ศรีสะเกษ, กรุงเทพฯ – รัตนบุรี และกรุงเทพฯ – สระบุรี เริ่มปรับตารางเดินรถตั้งแต่วันนี้ (3 มีนาคม 2564) เป็นต้นไป และ บขส. จะเปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ (เอกมัย) – แหลมงอบ (ท่าเรือเซนเตอร์พอยท์) โดยรถโดยสารจะเข้ารับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วเข้า บขส. จันทบุรี สุดเส้นทางที่แหลมงอบ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้ด้วย
เส้นทางภาคใต้ เปิดให้บริการ 15 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ – ตรัง – สตูล , กรุงเทพฯ – สุไหงโกลก, กรุงเทพฯ – สงขลา, กรุงเทพฯ-ยะลา, กรุงเทพฯ – ภูเก็ต, กรุงเทพฯ -หาดใหญ่ – สงขลา , กรุงเทพฯ – คลองท่อม-กระบี่, กรุงเทพฯ – เกาะสมุย, กรุงเทพฯ – นครศรีฯ-หัวไทร, กรุงเทพฯ – ตะกั่วป่า – โคกกลอย, หมอชิต2-ภูเก็ต, หมอชิต2 – หาดใหญ่, หมอชิต2 – กระบี่, หมอชิต2 – ตรัง – สตูล, หมอชิต2 – เกาะสมุย, และหมอชิต2 – หลังสวน เริ่มปรับตารางเดินรถตั้งแต่วันนี้ (3 มีนาคม 2564) เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการรถโดยสาร บขส. สามารถใช้สิทธิโครงการเราชนะ ชำระค่าโดยสารรถโดยสาร บขส. ผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เช่นเดียวกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้สิทธิเดินทางกับรถโดยสาร บขส. ได้ภายในวงเงิน 500 บาทต่อเดือน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังสามารถใช้สิทธิ ได้พร้อมกันทั้ง 2 สิทธิ แต่ต้องแจ้งพนักงานจำหน่ายตั๋วก่อนซื้อตั๋วโดยสาร และหากเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เพียงพอสามารถใช้เงินจากโครงการเราชนะ ชำระค่าโดยสารได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีการซื้อตั๋วรถโดยสาร บขส. โดยใช้สิทธิโครงการเราชนะ เมื่อออกบัตรโดยสารเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถขอคืนตั๋ว หรือแลกเป็นเงินสดได้ แต่สามารถเลื่อนการเดินทางได้ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง