นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้นำชาวชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนางรอง เดินทางมายื่นฟ้องนายอำเภอนางรอง และนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนางรอง ฐานละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ตาม ม.9(2) แห่ง พรบ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542
ทั้งนี้สืบเนื่องจากในบริเวณรอบสระหนองรี ซึ่งเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ใจกลางเทศบาลเมืองนางรอง ซึ่งสระน้ำเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยอาณาจักรขอมโบราณ เนื่องจากพื้นที่อำเภอนางรองเป็นที่ตั้งของเมืองนางรองหรือแคว้นพนมโรงในอดีต ถูกบุคคลและกลุ่มบุคคลรวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นเข้าบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง และนำมาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งการทำตลาดชุมชนแต่มีการเรียกเก็บเงินผู้ค้าโดยไม่มีผู้ใดทราบว่านำรายได้ไปไหน การก่อสร้างอาคารสถานที่เพื่อทำวิสาหกิจชุมชน โรงสีข้าว และเปิดเป็นฟิซซิ่งปาร์คเรียกเก็บเงินผู้เข้าไปใช้บริการตกปลาในสระดังกล่าว โดยไม่มีใครทราบว่าเงินที่เก็บได้ไปใช้จ่ายอะไร นอกจากนั้นยังปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้ามาสร้างอาคารร้านค้าจำหน่ายสินค้าให้กับญาติผู้ป่วยที่มาเยี่ยมในโรงพยาบาลนางรองที่อยู่ใกล้ๆด้วย อีกทั้งมีการปล่อยให้มีการนำขยะจากทุบตึกก่อสร้างมาทิ้งริมสระเต็มไปหมด อีกด้วย
ซึ่งสระหนองรีนั้นมีสถานะเป็นที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.1304(2) ที่บัญญัติว่า “สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น รวมทรัพย์สินทุกชนิดของแผ่นดินซึ่งใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน เช่น ทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ” รวมทั้งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน 2543 กำหนดให้ผู้มีอำนาจในการควบคุม ดูแล คือ นายอำเภอและองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่นั่นเอง
ดังนั้น หากมีบุคคลใดเข้ายึดถือ ครอบครอง และนำพื้นที่ดังกล่าวไปแสวงหาผลประโยชน์ย่อมผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายอำเภอและท้องถิ่นจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ทว่าที่บริเวณรอบสระหนองรี อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กลับมีการเพิกเฉยแม้ชาวบ้านจะเรียกร้องให้นายอำเภอนางรอง และนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนางรอง ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดแล้วก็ตาม เมื่อทั้งสองเย่อหย่อนต่อหน้าที่ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนางรอง จึงร่วมกันนำความมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมาในวันนี้ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด