อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้างานปี 64 ที่จะทำทันทีเพื่อลดรายจ่าย หนุนสร้างงานเพิ่มรายได้ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ เพื่อลดผลกระทบโควิด -19 พร้อมจับมือกระบวนการสหกรณ์การเงินซ่อม -สร้างความเข้มแข็งองค์กร
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เตรียมขับเคลื่อนงานของกรมฯ ในปีงบ 2564 ทันทีภายหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คือ เร่งแก้ไขปัญหาของเพื่อนสมาชิกสหกรณ์ทุกประเภทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยจะหารือสหกรณ์ขอให้ช่วยสมาชิกลดรายจ่ายและจะเพิ่มรายได้
จากนั้นจะนำปรัชญาเศรษฐกิจเพียงขับเคลื่อนเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ในระยะเร่งด่วน ทั้งในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร พร้อมกับการพัฒนาศักยภาพการผลิตของสหกรณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการรัฐเพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่า โดยจะเชื่อมโยงสินค้าผลผลิตกับตลาดและซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ หรือการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าระหว่างภาคตามนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขณะเดียวกันกรมฯ จะเดินหน้าพัฒนาระบบสหกรณ์การเงินให้เข้มแข็งและนำไปสู่ระบบธรรมาภิบาลตามกฎหมายสหกรณ์
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อรายได้ของสมาชิกและกระทบต่อการชำระหนี้ของสมาชิก ดังนั้น ต้องเร่งลดรายจ่ายให้สมาชิกก่อนทันที โดยจะขอความร่วมมือจากสหกรณ์ให้พักการชำระหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สมาชิกยังมีเงินเหลือใช้จ่ายในครัวเรือน จากนั้นต้องสร้างรายได้โดยส่งเสริมอาชีพที่สามารถสร้างได้ในระยะสั้น 1-2 เดือน เช่น การปลูกผัก การปลูกพืชผลทางการเกษตร การแปรรูปสินค้า ซึ่งกรมฯ จะช่วยจัดหาตลาดรองรับ เบื้องต้นมีซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์รองรับ” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่า
จากนั้นจะร่วมกับสหกรณ์ทำแผนธุรกิจเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตจากเครื่องมือที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการของรัฐตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มศักยภาพ ทั้งธุรกิจการรวบรวม การแปรรูปเพิ่มมูลค่าเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ เช่นโรงสี ไซโล เครื่องอบลดความชื้น ลานตาก เพื่อให้สหกรณ์สามารถเข้าทำธุรกิจได้ทุกระบบ
ทั้งนื้เป้าหมายสูงสุดคือแปรรูปและทำการตลาดได้เอง ทั้งข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน รวมถึงโรงงานรวบรวมน้ำนมดิบ โดยสินค้าจะเชื่อมโยงกับตลาดหรือซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ หรือเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์ด้วยกันในแต่ละภูมิภาค นอกจากนั้น จะส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่นิคมสหกรณ์ การยกระดับไร่นาของสมาชิกเป็นแปลงที่มีระบบการผลิตที่ดี (GAP)
อีกนโยบายสำคัญที่ต้องเริ่มทำทันทีเช่นกัน คือ จะจับมือกับขบวนการสหกรณ์ทางการเงินสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสหกรณ์ทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ผ่านกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ ร่วมถึงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจสหกรณ์ การอบรมด้านบัญชี ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของสหกรณ์และนำไปสู่การเป็นสหกรณ์ที่มีธรรมาภิบาลต่อไป