"...พิจารณาพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายอดิศักดิ์ หลังจิ นายอัสหาด หลังจิ จะพบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินดำเนินงานโครงการเหมือนกัน และยังเกิดเหตุในช่วงการบริหารงาน เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล บทลงโทษที่ได้รับมีทั้งจำคุก และคืนเงินให้หลวงเหมือนกันด้วย ..."
............................
นายอดิศักดิ์ หลังจิ ในฐานะจำเลย มีความผิดตามมาตรา 147 , 157 และ 162 (4) การทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 มาตรา 147 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน ตามมาตรา 157 คงจำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 2 ปี 12 เดือน กับให้จำเลยคืนเงิน 2,000,000 บาท ที่ยังไม่ได้คืนให้แก่ผู้เสียหาย
ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก ไม่มีเหตุรอการลงโทษ!
คือ คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ในคดีกล่าวหา นายอดิศักดิ์ หลังจิ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล เบิกจ่ายเงินประมาณของเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง เพื่อจัดทำโครงการจัดงานวันเมาลิดประจำปี 2553 และโครงการมหกรรมสัตว์เลี้ยงแห่งประเทศไทย เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา เมื่อปี 2553 ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 และ 157 และมาตรา 162 (4) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. ล่าสุด
(อ่านประกอบ : คุก 2 ปี 12 ด.-คืน 2 ล้าน! อดีตนายกฯ เจ๊ะบิลัง เบิกเงินจัดงาน 2 โครงการมิชอบ)
โฟกัสข้อมูลในส่วนของคนนามสกุล 'หลังจิ' จะพบว่า ไม่ใช่บุคคลแรก ที่ถูกศาลคดีทุจริตตัดสินพิพากษาลงโทษจำคุก ตามผลการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เคยมีคำพิพากษาคดีกล่าวหา นายอัสหาด หลังจิ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล กรณียืมเงินทดรองราชการเพื่อดำเนินโครงการถนนอาหารฮาลาล ประจำปีงบประมาณ 2555 โดยมิได้จัดทำโครงการดังกล่าว และไม่ส่งใช้เงินคืน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, มาตรา 151, มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา
โดยศาลฯ มีคำพิพากษาว่า นายอัสหาด หลังจิ มีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 147 อันเป็นบทเฉพาะ ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี
นายอัสหาด หลังจิ ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และให้คืนเงิน 600,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
(อ่านประกอบ : คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตรองนายกฯเจ๊ะบิลัง สตูล ยืมเงินทดรองราชการทำโครงการถนนฮาลาลเท็จ)
พิจารณาพฤติการณ์การกระทำความผิดของ นายอดิศักดิ์ หลังจิ นายอัสหาด หลังจิ จะพบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินดำเนินงานโครงการเหมือนกัน และยังเกิดเหตุในช่วงการบริหารงาน เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล บทลงโทษที่ได้รับมีทั้งจำคุก และคืนเงินให้หลวงเหมือนกันด้วย
อย่างไรก็ดี คดีของบุคคลทั้งสอง ยังไม่สิ้นสุด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ นายอดิศักดิ์ หลังจิ นายอัสหาด หลังจิ เพิ่มเติม
ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่า บุคคลทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
"ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน นายอัสหาด หลังจิ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง แต่ถูกใบแดง พ้นจากตำแหน่งไป จากนั้นไม่นาน นายอดิศักดิ์ หลังจิ ก็เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯ ผ่านไปประมาณ 1-2 ปี ก็มีการแต่งตั้ง นายอัสหาด หลังจิ เข้ามาเป็นรองนายกฯ ก่อนที่จะเกิดปัญหาถูกสอบสวนในการบริหารงาน ต่อมานายอดิศักดิ์ หลังจิ ก็โดนสอบสวนและพ้นจากตำแหน่งตามไปเช่นกัน หลังจากในช่วงปี 2556 เป็นต้นมา นายมะหมัดนีซัม บิลังโหลด ก็เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลัง และอยู่ในตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ ได้รับการต่ออายุจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)อีกหนึ่งสมัยด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเลือกตั้งใหม่ วันที่ 28 มี.ค.2564 นี้ ก็จะทราบผลเป็นทางการว่า ใครจะได้เข้ามาเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเจ๊ะบิลังคนใหม่"
เมื่อถามถึงเรื่องคดีความเกี่ยวกับ นายอดิศักดิ์ หลังจิ นายอัสหาด หลังจิ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง ระบุว่า "เท่าที่ทราบบุคคลทั้งสองอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล แต่ไม่มีใครรู้ว่าผลคดีในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง"
ทั้งหมดนี่เป็นข้อมูลเบื้องลึก เกี่ยวกับอดีตผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง นามสกุล 'หลังจิ' ทั้ง 2 ราย ที่พอจะสืบค้นได้ในขณะนี้
นับเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับสังคมไทย!