นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 โดยระบุว่าจะสามารถเปิดระบบให้จองที่พักได้ 2 ล้านสิทธิ ในวันที่ 7 พ.ค. นี้ และใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.จนถึงวันที่ 31 ก.ค. 64
ผู้ว่า ททท. กล่างถึงสาเหตุที่โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีความล่าช้า เนื่องจากกรุงไทยอจะต้องปรับปรุงและพัฒนาระบบ เพื่อป้องกันการทุจริตที่เคยขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ต่างไปจาก 2 เฟสแรก เช่น การสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนก่อนใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชั่น, จองสิทธิล่วงหน้า 7 วัน, ต้องเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น ไม่สามารถใช้จังหวัดเดียวกับบ้านเกิดได้ และปรับคูปอง E-Voucher จากเดิมวันละ 900 บาท เป็น 600 บาททั้งการใช้วันธรรมดาและวันหยุด โดยจะใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการ 5,600 ล้านบาท
เช็กเงื่อนไข เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 เพิ่ม 2 ล้านสิทธิ พร้อมเงื่อนไขสุดพิเศษ เริ่มใช้สิทธิเดือน พ.ค. เป็นต้นไป
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงรายละเอียดโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ด้วยการขยายสิทธิให้ 2,000,000 ล้านสิทธิ โดยใช้วงเงินคงเหลืออยู่ 5,700 ล้านบาท ดำเนินโครงการฯ เริ่มใช้สิทธิได้ในเดือน พ.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. นี้ และมีการปรับเงื่อนไขโครงการดังนี้
-ปรับระยะเวลาการจองห้องพักล่วงหน้าจาก 3 วัน เป็น 7 วัน เพื่อให้ทางกรุงไทยส่งข้อมูลให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่
-ปรับการจ่ายค่าห้องพัก ผ่านแอปฯ เป๋าตังและถุงเงิน พร้อมเพิ่มระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าเมื่อเข้าเช็กอิน
-ปรับ E-Voucher ร่วมจ่าย (Co-pay) 40% จากเดิม 900 ในวันธรรมดา และ 600 บาท ในวันหยุด เป็น 600 บาทราคาเดียวต่อวัน
-ต้องเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น
ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม-ที่พัก ที่ต้องเคยเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น จะต้องให้ความยินยอมในระบบใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ ททท. เข้าไปตรวจสอบโดยจะนำข้อมูลห้องพักที่จดทะเบียนไว้กับมหาดไทย มาดูแต่ละแห่งว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งแต่ละโรงแรมต้องส่งจำนวนห้องพัก ราคาทั้งหมดให้กับ ททท. จากนั้นจะเป็นการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตที่เคยเกิดขึ้น