นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สินค้ารองเท้าแตะเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกของไทยที่น่าจับตามมอง เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกรองเท้าแตะของไทยไปตลาดต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรองเท้าแตะกลุ่มที่ทำจากยางหรือพลาสติก ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 8 ของโลก รองจาก จีน สหภาพยุโรป เวียดนาม ตุรกี สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย บราซิล โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมรองเท้าแตะของไทย ได้แก่ คุณภาพมาตรฐานสินค้าที่ได้รับการยอมรับ ประกอบกับความได้เปรียบด้านต้นทุน เนื่องจากสามารถหาวัตถุดิบในการผลิต ได้แก่ เม็ดพลาสติก และยางพาราแปรรูปได้ภายในประเทศ และมีแรงงานคุณภาพที่มีประสบการณ์
ทั้งนี้ ไทยยังมีแต้มต่อจากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่มีกับ 18 ประเทศคู่ค้า ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ซึ่งช่วยปลดล็อกกำแพงภาษีนำเข้าสินค้ารองเท้าแตะที่ส่งออกจากไทย ทำให้สินค้าของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น
ปัจจุบัน 16 ประเทศคู่เอฟทีเอ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ารองเท้าแตะจากไทยทุกรายการ ทั้งรองเท้าแตะที่ทำจากยางหรือพลาสติก รองเท้าแตะจากหนัง และรองเท้าแตะจากวัสดุสิ่งทอแล้ว เหลือเพียง เปรู และอินเดีย ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้ารองเท้าแตะจากไทย โดยอินเดียลดภาษีนำเข้าจาก 10% เหลือเก็บภาษีที่ 5% และเปรูเก็บภาษีนำเข้าที่ 11%
นางอรมน กล่าวว่า เมื่อพิจารณาตลาดคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรีด้วย พบว่าประเทศคู่เอฟทีเอเป็นตลาดส่งออกสำคัญของสินค้ารองเท้าแตะของไทย โดยไทยส่งออกสินค้ารองเท้าแตะไปยังตลาดคู่เอฟทีเอรวมกันปีละมากกว่า 2 ใน 3 ของการส่งออกทั้งหมด ประมาณ 64% ของการส่งออกทั้งหมด และการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างปี 2560-62 ไทยส่งออกรองเท้าแตะไปประเทศคู่เอฟทีเอมูลค่ารวม 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ อัตราการขยายตัวเฉลี่ย 12% ต่อปี