ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (บอร์ดกองทุนดีอี) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) คนใหม่ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้
พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบกรอบวงเงิน 3 พันล้านบาท สำหรับสนับสนุนโครงการที่เข้าเกณฑ์ตามกรอบนโยบายการให้ทุนสนับสนุนประจำปี 2564 โดยการเปิดรับข้อเสนอโครงการ/กิจกรรมที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนดีอีปีนี้ กำหนดกรอบนโยบายการให้ทุนไว้ 6 ด้าน ได้แก่ 1. Digital Manpower “การศึกษากับคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล” การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวางแผนการจัดการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการกำหนดนโยบายพัฒนาบุคลากรของประเทศ
2. Digital Health “Advanced eHealth” ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลด้านสาธารณสุข ครอบคลุมการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศทางการแพทย์ การบริการสุขภาพและให้คำปรึกษาในทุกกลุ่มคนอย่างทั่วถึง
3. Digital Agriculture “เกษตรเชิงรุกด้วยนวัตกรรมดิจิทัล” การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเกษตรแบบเชิงรุก ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่าและต่อยอดภาคเกษตร
4. Digital Technology “เทคโนโลยีดิจิทัลในโลกอนาคต” ส่งเสริมการนำอุปกรณ์และระบบดิจิทัล อาทิ อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things) มาใช้ในการบริหารจัดการเมือง ชุมชน และแก้ปัญหาสาธารณะ ตลอดจนยกระดับการบริหารจัดการในภาคต่างๆ
5. Digital Government & Infrastructure “รัฐบาลดิจิทัล” สนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการออกแบบบริการภาครัฐ การบูรณาการและการทำงานร่วมกัน (Interoperability) เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ และ
6. Digital Agenda “โครงการตามนโยบายเร่งด่วน” โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มุ่งเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการกำหนดหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 26 (6) แห่ง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 สำหรับขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5G ของประเทศไทย เพื่อการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติในการประชุมบอร์ดดีอี เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการที่เข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาสนับสนุน ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขหลักๆ ได้แก่ เป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ เป็นโครงการนำร่องที่มีความสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5G ของประเทศไทย ระยะที่ 1 และโครงการที่ขอรับการสนับสนุนต้องมีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนดีอี
ทั้งนี้ ยังพิจารณาเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา การจัดสรรประโยชน์และการรักษาสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งได้เสนอให้มีการแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทรัพย์สินทางปัญญา” เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนฯ ต่อไป
ด้าน น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้มีการอนุมัติให้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการพัฒนาบทเรียนออนไลน์ และสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาบาลี ในส่วนของกองทุนแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นหน่วยงานสนองพระราชดำริ