นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 ระลอกใหม่ กรมการค้าต่างประเทศพร้อมอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยเดินหน้า 6 มาตรการหลัก โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากระบบการให้บริการแบบดิจิทัลของกรมฯ ซึ่งอยู่ภายใต้ 85 รายการของบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียวของกระทรวงพาณิชย์ (MOC Online One Stop Service) ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการและปฏิบัติตามนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งเพื่อลดความเสี่ยง ความแออัด และความจำเป็นในการเดินทางมายังกรมการค้าต่างประเทศ ดังนี้
1. ขยายเวลาวันหมดอายุสำหรับบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าและบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ ที่จะหมดอายุในช่วงระหว่างวันที่ 15 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ออกไปอีก 3 เดือน โดยอัตโนมัติ
2. อนุญาตให้ผู้ประกอบการส่งคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าที่มีมาตรการควบคุมการส่งออก-นำเข้าผ่านทางไปรษณีย์ พร้อมสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาและเลขทะเบียนผ่านระบบลงทะเบียนผู้ประกอบการออนไลน์ของกรมฯ (Registration Database) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. เชิญชวนให้ผู้ประกอบการเลือกใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) หรือการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (ASEAN Wide Self Certification: AWSC) สำหรับการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนแทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบกระดาษ
4. ผลักดันให้ผู้ประกอบการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (ESS) ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว เพื่อลดการสัมผัสกระดาษและลดระยะเวลาที่ใช้ในการรับบริการ ทั้งนี้ สำหรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั่วไป (C/O ทั่วไป) ให้ผู้ประกอบการประสานผู้นำเข้าปลายทางเพื่อยกเว้นการขอ C/O ทั่วไปสำหรับการผ่านพิธีการศุลกากรในช่วงนี้
5. เพิ่มการให้บริการออกใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้าแบบไร้เอกสาร (Paperless) โดยกรมฯ ได้เชื่อมโยงข้อมูลหนังสือสำคัญฯ กับกรมศุลกากรผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบพิธีการทางศุลกากร โดยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารแบบกระดาษอีกต่อไป
6. อนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้แบบฟอร์มรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองตามที่กรมฯ กำหนดมายื่นประกอบการขอรับหนังสือรับรองแสดงการได้สิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ในช่วงระหว่างวันที่ 15 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 กรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถนำ C/O จากประเทศต้นทางมาแสดงได้เนื่องจากประเทศต้นทาง Lockdown
นายกีรติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ มีมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการจัดทำระบบ Timeline a Day Report สำหรับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เข้าไปกรอกข้อมูล การเดินทางและกิจกรรมที่ได้ดำเนินการในแต่ละวัน เช่น สถานที่ที่ไปทำกิจกรรม ช่วงเวลา และรูปแบบ การเดินทาง เป็นต้น สำหรับใช้เป็นข้อมูลในการติดตามและกำกับดูแลเพื่อลดโอกาสของเจ้าหน้าที่ในการเข้า พื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการว่า กรมฯ ได้คำนึงความปลอดภัยในการให้บริการอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ กรมฯ มีการแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านบริการเป็นทีม A B C สลับกันมาปฏิบัติงาน เพื่อลดความเสี่ยงกรณีมีผู้ติดเชื้อและต้องกักตัว จึงมั่นใจได้ว่างานบริการสำหรับผู้ประกอบการยังดำเนินการต่อไปได้โดยไม่ติดขัดในช่วงการแพร่ระบาดรอบใหม่นี้
ผู้ประกอบการที่มีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4830 และ 0 2547 4838 หรือ เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th และสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385