นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ประสานงานไปยังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และภาคเอกชนที่อยู่ในสายการผลิต เพื่อให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแรงงานที่เข้ามาทำงานในโรงงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่จะเริ่มการทำงานใหม่ เมื่อพ้นช่วงหยุดยาวสงกรานต์ เพราะขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีความรุนแรงขึ้น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น
"โดยขอให้ภาคเอกชนเพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะโรงงานผลิตสำคัญประกอบกับแผนรองรับการขาดแคลนแรงงานจากสถานการณ์นี้อาจกระทบต่อการผลิตเพราะเมื่อการผลิตชะงักก็จะกระทบต่อการส่งออกได้ แม้เหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นเพราะเชื่อว่าเอกชนมีความระมัดระวังและมีประสบการณ์ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว จากการติดตามที่ผ่านมา ภาคเอกชนสามารถที่จะป้องกันแรงงานติดเชื้อได้เป็นอย่างดี ทำให้สินค้าอาหารไทยได้รับความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐาน และมีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น " นางมัลลิกา กล่าว
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ได้สั่งการด้วยว่า ให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ทั้ง 58 แห่งที่ประจำอยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดที่เป็นเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหาร ทำการชี้แจงผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอย้างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าอาหารไทยปลอดโควิด-19 และให้ติดตามท่าทีของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้หาทางเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าอาหารไทย ทั้งการจัดกิจกรรมกระตุ้นการบริโภคอาหาร และการเจรจาธุรกิจออนไลน์เพื่อจำหน่ายสินค้าอาหารไทย เพราะเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ในการรับรองการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออกโดยคุมเข้มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการส่งออก