กระทรวงพาณิชย์หารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมการค้าพืชไร่ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ โดยทั้งสองสมาคมฯ ยินดีให้ความร่วมมือในการเร่งรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดว่าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะออกสู่ตลาดมากในระหว่างเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2559 รวมประมาณ 2.28 ล้านตัน โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดปริมาณ 8.86 แสนตัน
ดังนั้น เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เชิญสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมการค้าพืชไร่ เข้าหารือแนวทางการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบางโรงงาน รับซื้อในปริมาณที่ลดลง ซึ่งผลการหารือปรากฏว่าทุกโรงงานยินดีให้ความร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญที่ผลผลิต กำลังออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายนนี้ เช่น จังหวัดน่าน ตาก เลย เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับที่จะบริหารจัดการให้มีการรับซื้อรวมไม่น้อยกว่า 8 แสนตัน ในเดือนนี้ และจะพยายามแก้ไขปัญหาการติดคิวหน้าโรงานอาหารสัตว์ให้ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ได้เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำให้การรับซื้อจากชาวไร่ต้องมีราคาที่เป็นธรรม
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจากแนวทางการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวนี้ จะช่วยดูดซับผลผลิตจากเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว และช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ โดยกรมการค้าภายในจะติดตามการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโรงงานอาหารสัตว์และพ่อค้าคนกลางอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาเสนอมาตรการที่เข้มงวดเพิ่มเติม เช่น การกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ หรือการปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลีต่อไป