กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ เดินหน้าพัฒนางานบริการออกหนังสือสำคัญการส่งออก – นำเข้า เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน และขานรับนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Government)
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศตั้งเป้าผลักดันให้ผู้ประกอบการในสินค้าที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ไปก่อนหน้านี้ อาทิ สินค้าข้าวทั่วไป สินค้ามันสำปะหลัง และสินค้าเกษตรนำเข้าตามความตกลงการเกษตรภายใต้ WTO (ยกเว้นข้าวและน้ำตาล) เข้ามาจดทะเบียนใช้งานระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ให้แล้วเสร็จภายในปี 2559 ซึ่งในช่วงต้นปี 2560 การออกหนังสือสำคัญการส่งออก – นำเข้าสินค้า เช่น ข้าวทั่วไป ไม้และไม้แปรรูป และสินค้าเกษตรภายใต้ WTO (ยกเว้นข้าวและน้ำตาล) จะเป็นแบบPaperless ทั้งหมด ดังนั้น ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ใช้งานระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ต้องเร่งดำเนินการและปรับตัวให้ทัน เพื่อรองรับกับโลกการค้าสมัยใหม่ที่เป็นยุคดิจิตอลไร้กระดาษ ภายใต้โมเดล “Thailand 4.0” และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E – Government)
นางอภิรดี ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนาและปรับปรุงงานบริการ เพื่อยกเลิกการใช้กระดาษ ลดขั้นตอน และภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงลดเวลาการรอรับหนังสือสำคัญต่างๆ โดยเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเทศ คู่ค้าต่างๆ เพื่อก้าวสู่การให้บริการแบบ Paperless ตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิตอลรองรับ Thailand 4.0 ซึ่งการใช้ระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) นี้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ไม่ต้องส่งเอกสารประกอบในรูปแบบกระดาษ และที่สำคัญสามารถส่งแบบคำขอได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เมื่อคำขอฯ และเอกสารประกอบผ่านการตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว จะได้รับแจ้งผลอนุมัติผ่านระบบคอมพิวเตอร์ สามารถนำไปดำเนินการทางพิธีการศุลกากรได้ทันที เนื่องจากระบบของกรมการค้าต่างประเทศเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับกรมศุลกากรแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษารายละเอียดได้จาก เว็ปไซต์ http://dft.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 02-547-4830, 02-547-4838 หรือ สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385