นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ลงพื้นที่ป่าบ้านพุองกะ หมู่ที่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตรวจสภาพพื้นที่เกิดเหตุที่มีการดำเนินการตรวจยึดไม้หวงห้าม และตรวจติดตามไม้ของกลางที่ยึดได้ ของหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ไทรโยค โดยมีหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมให้ข้อมูล
นายวราวุธ กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับวันพื้นที่ทำกินเป็นพื้นที่ที่หายากขึ้นทุกวัน ประกอบกับที่ผ่านมา การประกาศแนวเขตพื้นที่ของส่วนราชการ เนื่องจากมีกฎหมายหลายฉบับ และยังมีมติ ครม. ในหลายห้วงเวลา ทำให้เกิดการทับซ้อนของพื้นที่กันขึ้นมาได้ แต่ที่สำคัญคือถ้าเป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่ เป็นต้นไม้ที่โตตามธรรมชาติ เป็นป่าตามธรรมชาติที่ไม่ใช่ป่าปลูก มีมติ ครม. กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าห้ามตัด
ดังนั้น จากนี้ไปจะมีการทำงานร่วมกันของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สปก. ที่ราชพัสดุ และกระทรวงกลาโหม สำรวจพื้นที่ที่มีความทับซ้อนระหว่างกัน และเร่งวางแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป แต่หัวใจที่สำคัญอีกส่วนคือ ความร่วมมือจากทางจังหวัด จากฝ่ายปกครอง ที่จะต้องเข้ามาร่วมชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้เกิดความเข้าใจในการใช้พื้นที่ให้มากยิ่งขึ้นด้วย”
สำหรับกรณีการตรวจยึดไม้หวงห้าม บริเวณป่าบ้านพุองกะ เป็นการเข้าตรวจสอบและตรวจยึดไม้ของกลาง หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า มีการลักลอบตัดไม้หวงห้ามเป็นจำนวนมาก บริเวณพื้นที่รอบเนินเขากว่า 45 ไร่ โดยจากการตรวจยึดพบไม้เบญจพรรณหลายชนิด อาทิ ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้กระบาก จำนวนกว่า 400 ท่อน และจากการตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้น พบว่า เป็นพื้นที่ สปก. ที่ได้ดำเนินการจัดสรรให้ชาวบ้าน ซึ่งตามกฎหมายไม่อนุญาตให้ตัดฟันไม้ธรรมชาติ นอกจากไม้ที่ปลูกขึ้นมาใหม่เท่านั้น ทั้งนี้ ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการทับซ้อนกันของหน่วยราชการระหว่าง เขตพื้นที่ทหาร พื้นที่ สปก. และพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค อีกด้วย