จากสถานการณ์ปัญหาราคาข้าวตกต่ำในปัจจุบัน ที่ชาวนาออกมาเรียกร้องขอให้ภาครัฐช่วยเหลือ เนื่องจากราคาที่รับซื้อในปัจจุบันไม่คุ้มกับราคาต้นทุนการปลูกข้าว ทำให้ขาดทุน ก่อให้เกิดภาระหนี้สินจากการกู้ยืมจากทั้งเจ้าหนี้ในระบบและนอกระบบ ปัญหาราคาข้าวตกต่ำประเด็นที่สำคัญคือการกำหนดราคาผ่านพ่อค้าคนกลางหรือโรงสี ซึ่งมีบทบาทในการรับซื้อหรือขายข้าว ประกอบกับต้นทุนจากการปลูกข้าวที่สูงขึ้น อาทิ ค่าปุ๋ยเคมี ค่าเก็บเกี่ยว จึงเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
โดยนายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว
จึงได้จัดทำโครงการ “กรมท้องถิ่นขายข้าวสารช่วยชาวนา” ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือชาวนาในเบื้องต้นโดยมีแนวทางช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น มีดังนี้
๑. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้สำรวจหรือสอบถามว่ามีเกษตรกร (ชาวนา) จำนวนกี่ราย
ที่ต้องการให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นช่วยจำหน่ายข้าวสารให้ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวบรวมข้าวสารจากเกษตรกรในพื้นที่ให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเป็นผู้นำส่งให้กรมช่วยขาย
๒. ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ชาวนา) เป็นผู้กำหนดราคาขายเอง ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจะเป็นผู้ขายข้าวสารให้ในราคาต้นทุนที่รับมา
๓. ในส่วนค่าขนส่ง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง จะเป็นผู้ช่วยเหลือในการออกค่าใช้จ่ายดังกล่าวทั้งหมด เพียงแต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ชาวนา) แจ้งผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำมาให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด รวบรวมข้าวสารและจัดส่งมาให้ ณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยกรมจะจ่ายค่าข้าวสารให้ไปเลย
และจะนำมาขายในราคาต้นทุน (เท่าเดิม) อีกทั้งจะช่วยภาระค่าขนส่ง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้
ในวันนี้เป็นการเริ่มโครงการในวันแรก โดยเป็นข้าวสารจากจังหวัดสุรินทร์ (ข้าวหอมมะลิ ๑๐๕ จังหวัดสุรินทร์) มีข้าวสารที่ให้กรมฯ ช่วยจำหน่ายราคาถุงละ 100 บาท บรรจุถุงละ 3.5 กิโลกรัม
โดยจำหน่ายในวันแรกทั้งหมด 1,5๐0 ถุง เป็นเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท น้ำหนักรวมประมาณ ๕.๕ ตัน
ซึ่งเมื่อเปิดการจำหน่ายปรากฏว่าสามารถจำหน่ายหมดในเวลาอันรวดเร็วไม่ถึง 10 นาที
ทั้งนี้ กรมฯ ได้ประชาสัมพันธ์ไปยังชุมชนโดยรอบ เช่น ชุมชนวัดราชาธิวาส ชุมชนวัดเทวราชกุญชร ชุมชน
วัดประสาทบุญญาวาส และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ตลอดจน
กรมประชาสัมพันธ์ได้ให้การช่วยเหลือด้านการประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันมียอดการสั่งจองจากผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ทั้งส่วนกลาง
ส่วนภูมิภาคในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตลอดจนพี่น้องประชาชนทั่วไปสั่งจองกว่า ๑๐,๐๐๐ ถุง คิดเป็นจำนวน ๓๕.๕ ตัน ซึ่งทางกรมจะได้แจ้งสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเป็นผู้รวบรวมนำข้าวสารของจังหวัดอื่นมาขายต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด จัดทำโครงการที่จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่พี่น้องเกษตรกรในเบื้องต้น และหาแนวทางช่วยเหลือในระยะยาวโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จังหวัด อำเภอ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสาร (ชาวนา) ในฐานะเป็นผู้ใกล้ชิดมากที่สุด เช่น จัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องสีข้าวชุมชน หรือก่อสร้างลานตากข้าวชุมชนโดยให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ จัดตั้งเป็นโรงสีชุมชน หรือลานตากข้าวชุมชน เพื่อนำผลผลิตออกจำหน่ายโดยตรง เพื่อป้องกันการผูกขาดจากพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งจัดหาตลาด หรือสถานที่เพื่อเพิ่มช่องทางในการนำผลผลิตออกจำหน่ายอีกทางหนึ่งด้วย