สธ.เผยแผนจัดหาวัคซีนอีก 37 ล้านโดส รัฐบาลซื้อ 30 ล้านโดส เอกชนร่วมด้วยอีก 7 ล้านโดส เพื่อกระจายฉีดให้ครอบคลุมประชากร 70% หากทำได้ตามแผนภายในเดือน ก.ย. - ต.ค. 2564 จะได้ฉีดแล้ว พร้อมเตือนคิดรอบคอบหลังมีกระแสข่าวจัดทัวร์ฉีดวัคซีนต่างประเทศ
นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมแผนในการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย ว่า แผนเดิมที่ได้จัดหาวัคซีน ไว้แล้วรวม 63 ล้านโดส แต่หากจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จึงจำเป็นต้องฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร ซึ่งคนไทยมี 70 ล้านคน จึงต้องฉีดในจำนวน 50 ล้านคน โดยต้องใช้วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส
ทั้งนี้ รัฐบาลให้การสนับสนุนดำเนินการร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อช่วยกันหาวัคซีนเพิ่มอีก 37 ล้านโดส แบ่งเป็น การจัดหาของภาครัฐ 30 ล้านโดส โดยดูเทคโนโลยีวัคซีนอื่น ทั้งจากบริษัท ไฟเซอร์ ชนิด mRNA วัคซีนสปุตนิก และวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตาม จะต้องหาเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เรามีทางเลือกมากขึ้น ส่วนวัคซีนซิโนแวค ก็จะมีการจัดหาเพิ่มเติมด้วย ส่วนของภาคเอกชนอีก 7 ล้านโดส ซึ่งทางเอกชนยินดีสนับสนุนทั้งงบประมาณและการจัดหาเข้ามาเอง เพื่อฉีดให้กับบุคลากรของตัวเอง ว่า ได้แก่ วัคซีนโมเดอร์นา ชนิด mRNA วัคซีนซิโนฟาร์ม และอื่นๆ จะมีการนำมาขึ้นทะเบียนประเทศไทยในอนาคต
“ตามแผน เราจัดหาเพิ่มได้ 37 ล้านโดส หากได้ตามที่กำหนดประมาณเดือนตุลาคม และขณะเดียวกัน ที่มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในเดือนมิถุนายน เราก็จะสามารถฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรได้เลย”
ส่วน บุคลากรสาธารณสุขภาคเอกชน ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนนั้น ช่วงนี้ เป็นช่วงที่วัคซีนมีจำกัด กระทรวงสาธารณสุข มีเป้าหมายให้บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน หากยังมีตกค้างอยู่ หากเป็นโรงพยาบาล หรือคลินิกในพื้นที่ใน กทม. สามารถประสานไปทางสำนักอนามัย กทม. ได้ ส่วนภูมิภาค ให้ประสานไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ
ทั้งนี้ ทาง กทม. จะมีการประสานงานโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้มีพื้นที่ให้บุคลากรสาธารณสุขภาคเอกชน สามารถไปรับวัคซีนได้ เบื้องต้น มีการประสานไปยังโรงพยาบาลวิมุตติแล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่ามี บริษัททัวร์เอกชนของไทย สามารถจัดทัวร์เดินทางไปฉีดวัคซีนที่ต่างประเทศได้นั้น นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวว่า มีอยู่ 2 เรื่อง คือ เราสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่ ช่วงนี้เราปิดประเทศ และการเดินทางต่างประเทศเวลานี้ต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ดังนั้นข่าวที่ออกมาเกรงว่า อาจจะเป็นการหาประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในรอบคอบ
ซึ่งในเดือน มิ.ย. ทุกคนจะได้รับวัคซีนแล้ว ไม่ช้าแน่นอน และอาจจะได้เร็วกว่านั้น เพียงแต่ช่วงแรกอาจจะเป็นผู้สูงอายุ และหากทำได้ตามแผนเชื่อว่า ภายในเดือน ก.ย. - ต.ค. 2564 ผู้ที่สมัครใจฉีด ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน และมีหลายยี่ห้อด้วย