พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบ Video Conference ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยวาระที่น่าสนใจวันนี้คือมาตรการเยียวยาโควิด การพิจารณางบประมาณ จัดสรรงบประมาณจากเงินกู้ เพื่อใช้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ทั้งเราชนะ คนละครึ่งเฟส3 และม33เรารักกัน
ทั้งนี้หลังจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจ โดยได้เชิญคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเข้าพบเพื่อหารือเรื่องมาตรการดูแล เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของมาตรการด้านการเงินผ่านการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 และการออกพ.ร.ก. ด้านการเงินต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ รวมถึงมาตรการด้านภาษี ทั้งการลดภาษีและการขยายกำหนดเวลาต่างๆ อีกทั้งมาตรการด้านการคลังผ่านโครงการเยียวยา และมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อต่างๆ ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เช่นโครงการคนละครึ่งระยะที่ 1-2 โครงการเพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ เช่น โครงการเราชนะนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในที่ประชุมเรื่องความจำเป็นที่ต้องพิจารณามาตรการที่จะออกมาใหม่ในรอบนี้ด้วยความรวดเร็วและด้วยความรอบคอบล่าสุด มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ หลักการมาตรการเยียวยาโควิด ระลอก 3 มาตรการ “คนละครึ่งเฟส 3” คนละ 3,000 บาท ให้สิทธิ์ 31 ล้านคน ระยะเวลาเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 งบประมาณ 93,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ให้สิทธิเพิ่ม โครงการเราชนะ อีก คนละ 2,000 บาท แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ 33 ล้านคนใช่จ่ายถึง 30 มิ.ย.64
และขยายสิทธิโครงการ ม33เรารักกัน สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 คนละ 2,000 บาท จำนวน 9.27 ล้านสิทธิ์ ใช้จ่ายถึง 30 มิ.ย.64