นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 4634 /2564 ตั้งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดฯ เพื่อปิดสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องฯ หยุดสายการผลิตชั่วคราว ใช้กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและชาวเมียนมา เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤษภาคม 2564 หากมีการผ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ตามมาตรา 18 คำสั่งดังกล่าวมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทำหน้าที่บูรณาการและมอบหมายให้โรงพยาบาลในจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ มอบหมายให้นายอำเภอหัวหินจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.) หินเหล็กไฟ รับผิดชอบเบิกจ่ายค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาด
ด้านนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์ สสจ. ได้เดินทางไปโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ฯ เพื่อร่วมกับ อบต.หินเหล็กไฟ ดำเนินการจัดตั้งสถานที่กักตัวภายในโรงงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆในอำเภอหัวหิน บูรณาการความร่วมมือเพื่อกักกันผู้มีความเสี่ยงตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเข้มงวดห้ามบุคคลผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า - ออกในพื้นที่เด็ดขาด
ทั้งนี้มีพนักงานในโรงงาน 593 คน มีพนักงานรายเดือนคนไทย 53 คน พนักงานรายวัน 540 คน แต่เป็นชาวพม่า 523 คน หลังการคัดกรองพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัวในโรงงานทั้งหมด 402 คน แบ่งเป็นผู้ที่อยู่ในบ้านพักของโรงงานแล้ว 202 คน และ ต้องเรียกคนงานจากหลายพื้นที่เข้ามากักตัวเพิ่มอีก 200 คน โดยห้ามบุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกภายในสถานที่กักตัวผู้มีความเสี่ยงสูงอย่างเด็ดขาด ยกเว้นหากผู้กักตัวมีอาการเจ็บป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลหรือยกเว้นเฉพาะเจ้าหน้ารับส่งอาหารเท่านั้น ซึ่งอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง