นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เกิดฝนตกและลมกรรโชกแรงในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เกิดวาตภัย ต้นไม้ล้มทับทาง ดินโคลนถล่ม ส่งผลกระทบต่อระบบคมนาคมขนส่งและการสัญจรของประชาชนผู้ใช้เส้นทาง
เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดประกอบด้วย สำนักงานทางหลวง ศูนย์สร้างทาง ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงทั่วประเทศ ดำเนินการตามมาตรการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องจักรตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้กับประชาชนตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดังนี้
– ตรวจสอบสภาพความเรียบร้อยของผิวทาง ต้องไม่มีหลุมบ่อ พร้อมสำรวจพื้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ สะพาน ท่อระบบน้ำ ร่องน้ำในเขตทางให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งานและดำเนินการขุดลอกร่องระบายบริเวณสองข้างทาง ทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำ กำจัดเศษขยะวัชพืชมิให้กีดขวางทางระบบน้ำ ตัดแต่งกิ่งไม้ และจัดเตรียมเครื่องจักร ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ สิ่งอำนวยความปลอดภัยป้ายจราจร หรือป้าย Knock Down ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง ไฟกระพริบ ฯลฯ ให้สามารถใช้งานได้ทันที เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติ
– ในกรณีเมื่อเกิดภัยพิบัติให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุดรวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้น
– เมื่อมีสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนให้ผู้บริหารในพื้นที่เข้าไปดำเนินแก้ไขปัญหาทันที และรายงานผู้บริหารในส่วนกลางจนกว่าเหตุการณ์จะยุติ และเมื่อเกิดเหตุทางขาด สะพานขาดหรือชำรุด ให้ขอความร่วมมือจากศูนย์สร้างทาง ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน เพื่อขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่เครื่องจักรและสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็กชั่วคราว) ให้เข้าดำเนินการให้เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกับแขวงทางหลวงโดยทันที
– ให้ทุกหน่วยงานติดตามเฝ้าระวังและรายงานข้อมูลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าระบบบริหารงานภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินของกรมทางหลวงอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ รวมถึงให้ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อย่างใกล้ชิด