“อลงกรณ์” ตั้งเป้าต้นปีหน้าเริ่มใช้นวัตกรรมใหม่ ผนึก “พาณิชย์” บุกตลาดจีน รัสเซีย ตะวันออกกลาง เอเซียกลางและยุโรปโดยรถไฟสายเส้นทางสายไหม “อีต้าอีลู่”
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และประธานคณะกรรมการบริหาร AIC (Agritech and Innovation Center) เปิดเผยว่า ตนและคณะได้ประชุมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและทีมวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นศูนย์ AIC ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยเฉพาะ 3 โครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการวิจัยและพัฒนา ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาวัคซีนโควิดจากพืชโดยจะเริ่มผลิตวัคซีนโควิดได้ปลายปีนี้ 2. โครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์ 3. โครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตร และ 4. โครงการเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมด้านอื่นๆ เช่น โคนมและผลิตภัณฑ์นม เป็นต้น
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการพัฒนาการยืดอายุผลไม้ด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์และโครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Smart Packing) ยืดอายุและความสดของผัก ผลไม้และสินค้าเกษตรจะนำนวัตกรรมใหม่นี้มาใช้กับแผนโลจิสติกส์เกษตรทางเลือกใหม่ในยุคโควิด เช่น การขนส่งระบบรางจากไทยผ่านจีนไปทุกมณฑลของจีน เกาหลี ภูมิภาคเอเชียกลางภูมิภาคตะวันออกกลาง รัสเซีย สแกนดิเนเวีย ยุโรปและอังกฤษ ภายใต้ขบวนรถไฟอีต้าอีลู่ (เส้นทางสายไหม) บนความร่วมมือระหว่าง ไทย-จีน-ลาว-เวียดนามเพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
“มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 ของแต่ละประเทศ ทำให้ต้นทุนการขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นทั้งทางบกทางน้ำและใช้เวลานานขึ้นในการข้ามแดนตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ จึงสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาและวางแนวทางโลจิสติกส์ทางเลือกใหม่ๆ ภายใต้ “5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย” และประกอบกับเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาว จะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการขนส่งสินค้าทางรางด้วยเส้นทางนี้ โดยใช้โลจิสติกส์ฮับที่อุดรธานีและหนองคาย ตั้งเป้าเริ่มคิกออฟต้นปีหน้าอีกเส้นทางคือ การขนส่งระบบรางผ่านด่านผิงเสียงบริเวณพรมแดนเวียดนามกับเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วงของจีน”
“เราหวังว่า ถ้าสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ยืดอายุผลไม้สด เช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง ขนุน ผัก สมุนไพร เป็นต้น จะทำให้มีทางเลือกในการขนส่งที่ถูกลงมีเวลาแน่นอนจากต้นทางถึงปลายทางและใช้เวลาน้อยลงแต่มีช่วงเวลาขายยาวขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้ค้าปลีกที่เป็นลูกค้าของไทยทั้งขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ และนี่คือการสร้างศักยภาพใหม่ในการส่งออกของเรา” นายอลงกรณ์ กล่าว