ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
คมนาคมเร่งเดินหน้ารถไฟทางคู่ หนุนเชื่อมอีอีซี - การค้าชายแดน
16 พ.ค. 2564

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. งบประมาณโครงการ 59,399.80 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมม (EIA)อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณา 2. ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. งบประมาณโครงการ 57,992.44 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา 3. ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. งบประมาณโครงการ 25,842 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน ขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2561

4. ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. งบประมาณโครงการ 36,683 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563, 5. ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. งบประมาณโครงการ 23,080 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา 6. ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. งบประมาณโครงการ 56,114.26 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ EIA อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ (คชก.) พิจารณา และ 7. ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. งบประมาณโครงการ 7,864.49 ล้านบาท สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ และ กก.วล. เห็นชอบ EIA แล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561

ทั้งนี้ ในการจัดลำดับความสำคัญโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 นั้น คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ก่อน 2 ช่วง คือ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย และชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ซึ่ง กก.วล.ได้ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้แจ้ง รฟท. เมื่อ 19 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ให้ปรับปรุงข้อมูลตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ เพื่อนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาโดยเร็ว เนื่องจากเป็นโครงการที่ กก.วล. ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA แล้ว ขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เห็นควรให้ รฟท.เร่งรัด นำเสนอโครงการทั้ง 2 ช่วงดังกล่าวต่อกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการต่อไป

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทางนั้น คือ 1.ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท ตามที่ ครม.อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 และ กก.วล.เห็นขอบ EIA นั้น คาดว่า จะประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนในช่วง มิ.ย. 2564 โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการขายแบบและเอกสาร (19 มี.ค. 2564-17 พ.ค. 2564) ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาวันที่ 18 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 19 พ.ค. 2564 จากนั้นจะประกาศผลการประกวดราคาวันที่ 8 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญา 30 ก.ค. 2564 ก่อนเริ่มก่อสร้างใน ต.ค.  2564 แล้วเสร็จ ก.ย. 2570

2. ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าก่อสร้าง 54,684.40 ล้านบาท ตามที่ ครม.อนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 และ กก.วล.เห็นขอบ EIA นั้น คาดว่า จะประกาศใช้ พ.ร.ฎ. เวนคืนในช่วง มิ.ย. 2564 โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการขายแบบและเอกสาร (26 มี.ค. 2564-24 พ.ค. 2564) ยื่นข้อเสนอและเสนอราคาวันที่ 25 พ.ค. 2564 ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิควันที่ 26 พ.ค. 2564 จากนั้นจะประกาศผลการประกวดราคาวันที่ 15 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญา 6 ส.ค. 2564 ก่อนเริ่มก่อสร้างใน ต.ค.  2564 แล้วเสร็จ ก.ย. 2568

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายให้ รฟท.ผลักดันการประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ส่วนต่อขยายจากสายทางเดิมในปัจจุบันเพื่อไม่ให้เกิดคอขวด อีกทั้งจะเป็นโครงข่ายขนส่งที่สนับสนุนการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านเชื่อมต่อโหมดการขนส่งประเภทอื่น เช่น การขนส่งไปยังพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เชื่อมต่อการขนส่งทางเรือ และอากาศ

โดยมีนโยบายให้ผลักดันเร่งด่วน 4 โครงการ วงเงินรวมกว่า 1.3 แสนล้านบาท ประกอบไปด้วย 1. ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 25,842 ล้านบาท โดยเส้นทางนี้จะเป็นโครงข่ายเชื่อมต่อการขนส่งจากจีน ลาว และไทยในพื้นที่อีอีซี ปัจจุบันโครงการนี้ได้ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ตั้งแต่ 20 ก.ค. 2563

2. ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท ปัจจุบันผ่านการเห็นชอบอีไอเอมาแล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 จึงเป็นโครงการที่สามารถขับเคลื่อนต่อไปทันที 3. ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม.วงเงิน 62,859.74 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาอีไอเอ โดยกระทรวงฯ เล็งเห็นความสำคัญของการผลักดันเส้นทางนี้ เนื่องจากจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับโครงการทางคู่สายเด่นชัย - เชียงราย – เชียงของ หากก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นโครงข่ายทางคู่ที่สมบูรณ์

4. ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการผ่านมาพิจารณาอีไอเอมาแล้ว ตั้งแต่ 1 ส.ค.2561 สามารถนำมาเปิดประมูลและก่อสร้างได้ โดยกระทรวงฯ เล็งเห็นว่าโครงการนี้ หาก ร.ฟ.ท.ผลักดันแล้วเสร็จ จะกลายเป็นสายทางสำคัญที่สนับสนุนการเดินทาง ขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวระหว่างไทย – มาเลเซีย

ส่วนโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ ขณะนี้ รฟท.ได้ประกาศขายแบบก่อสร้างครบทั้ง 2 โครงการ คือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ค่าก่อสร้างงานโยธา 7.29 หมื่นล้านบาท และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ค่าก่อสร้างงานโยธา 5.46 หมื่นล้านบาท โดย ร.ฟ.ท.มีกำหนดเปิดให้ยื่นเอกชนข้อเสนอ 18 และ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา คาดว่าจะลงนามได้ในเดือน 2 ส.ค. 2564

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...