นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจในเครือข้าวมาบุญครอง และศูนย์อาหารฟู้ด เลเจ้นด์ส บาย เอ็มบีเค มอบผลิตภัณฑ์ข้าวสารรวงแก้ว จำนวน 5 ตัน ผ่านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อนำไปบรรจุถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากากรแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 กว่า 6,000 ครัวเรือน ที่อยู่ในพื้นที่สีแดง 52 เขต ของกรุงเทพมหานคร โดยมี นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เกียรติเป็นผู้แทนในการรับมอบผลิตภัณฑ์
นายสมเกียรติ กล่าวว่า “ในฐานะที่กลุ่มธุรกิจข้าวมาบุญครอง เป็นผู้ประกอบการด้านอาหาร และมีธุรกิจหลักคือข้าวสารมาบุญครอง จึงอยากร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นในด้านอาหาร โดยตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ข้าวมาบุญครองได้สนับสนุนข้าวสารผ่านหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อไปนำช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 30 ตัน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้สนับสนุนข้าวสารผ่านกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยในครั้งนี้สามารถช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบกว่า 6,000 ครัวเรือน นอกเหลือจากการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ ข้าวมาบุญครองยังมีกลุ่มจิตอาสา ในการลงพื้นที่เพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปกระจายตามจุดต่างๆ และถือได้ว่าเป็นการร่วมสร้างกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย เพราะไม่ว่าจะเกิดวิกฤติปัญหาอะไร ทุกภาคส่วนรวมถึงข้าวมาบุญครองเอง ก็พร้อมที่จะช่วยดูแลทุกท่าน เพื่อให้เราผ่านวิกฤติที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน”
ด้านนายสถาปนวัฒน์ ภู่มาลา ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสริมว่า “สำหรับการบริจาคในครั้งนี้ ทางศูนย์ฯ ขอขอบพระคุณข้าวมาบุญครองที่เข้ามาร่วมสนับสนุน เนื่องจากข้าวสารเป็นสิ่งของยังชีพที่จำเป็นมากๆ โดยทางศูนย์รับบริจาค อยากเชิญชวนทุกท่านที่มีกำลังทรัพย์ มาร่วมแบ่งปัน และบริจาคสิ่งของอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะข้าวสาร น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ ผ้าอ้อมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ หรือเป็นเงินบริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้ทั่วถึงมากที่สุด โดยขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ 52 เขต ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงมากที่สุดของไทย ซึ่งในขณะนี้ได้วางแผนการลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือให้ครบแล้วภายในต้นเดือนมิถุนายน และจะเริ่มดำเนินการขยายการมอบสิ่งของไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ทั่วถึงมากที่สุด”